พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า การเกณฑ์ทหารในปีนี้ราบรื่น และขอให้พ่อแม่ครอบครัวทหารเกณฑ์ทุกนายได้มั่นใจว่า บุตรหลานของท่านเป็นผู้มีเกียรติ และทำหน้าที่ในฐานะลูกผู้ชายที่น่าภาคภูมิใจ ส่วนข่าวการลงโทษทหารกองประจำการ ด้วยการทำร้ายร่างกายนั้น เป็นความผิดชัดเจนของผู้กระทำและต้องได้รับการลงโทษสถานหนัก เพราะถือเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ รวมทั้งขัดระเบียบและนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ต้องการให้ครูฝึกส่งเสริม ความรักความสามัคคี วินัยที่จริงจังแก่ทหารกองประจำการ โดยลงโทษได้ตามเหตุและผล ทางวินัย ซึ่งมีระเบียบหลักเกณฑ์อยู่แล้ว แต่มิใช่ด้วยการทำร้าย ซึ่งมีความแตกต่างกัน” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ในปีนี้มีจำนวนชายไทยที่มีอายุครบเกณฑ์เข้ารับการตรวจเลือก 355,938 นาย มียอดเข้าเป็นทหารกองประจำการ จำนวน 101,307 นาย แยกเป็น กองทัพบก 75,324 นาย กองทัพเรือ 16,000 นาย กองทัพอากาศ 8,099 นาย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 735 นาย และกองบัญชาการกองทัพไทย 1,149 นาย
ทั้งนี้ มีชายไทยสมัครใจเป็นทหารมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดเกณฑ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติเพราะที่ผ่านมาจะมีชายไทยสมัครใจเป็นทหารจำนวนมาก และบางพื้นที่มีจำนวนผู้ร้องขอเป็นทหารมากกว่าจำนวนเกณฑ์เสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ทุกครั้งที่มีการสมัครพลเรือน เข้าเป็นทหาร ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนแพทย์ทหาร นักเรียนพยาบาลทหาร นักเรียนนายสิบ ไม่ว่าจะเหล่าทัพใด ตำแหน่งใด จะมีผู้มาสมัครเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลให้รอบด้านไม่มุ่งเน้นเพียงการเสนอข่าวลบ หรือเหล่าคนดังที่เข้าเกณฑ์ทหาร จนละเลยให้กำลังใจผู้ที่มุ่งมั่นอยากรับใช้ชาติ การเป็นทหาร นอกจากจะได้รับการฝึกร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งแล้ว ยังได้รับสวัสดิการในด้านการดำรงชีพพอสมควร อาทิ เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าครองชีพชั่วคราว รวมประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งสวัสดิการการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทหาร และคะแนนเพิ่มพิเศษในการสอบเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกอีกด้วย