นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 29 จังหวัด รวม 154 อำเภอ 705 ตำบล 5,679 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 7.58 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ แยกเป็นจังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภค 11 จังหวัด จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำเพื่อการเกษตร 9 จังหวัด และจังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 9 จังหวัด พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
และจากการประสานข้อมูลกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อผลผลิตได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากยังไม่มีน้ำในระบบกักเก็บสำหรับสนับสนุนการปลูกข้าวไปจนกว่าจะถึงช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 จึงขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรังรอบที่ 2 โดยกักเก็บน้ำฝนสำหรับใช้ในการทำนา ติดตามประกาศการเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการจากกรมอุตุนิยมวิทยา และวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่
นอกจากนี้พบว่าช่วงระหว่างนี้ – 3 พฤษภาคม จะเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกลงมาในระยะนี้จะช่วยคลายความร้อน เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และเพิ่มความชื้นในอากาศ ส่งผลให้การปฏิบัติการฝนหลวงมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำที่มีจำกัดอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่ภาครัฐกำหนด ส่งผลให้มีน้ำอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้งถึงช่วงต้นฤดูฝน
ทั้งนี้ หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784
