ภรรยา “เสี่ยชูวงษ์” ตัดสินใจฟ้องเอาผิด “พ.ต.ท.บรรยิน”ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ คดีปลอมเอกสารโอนหุ้น ศาลจังหวัด”พระโขนงและศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดไต่สวนมูลฟ้องปีหน้า

0
1161

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นางศิริรัตน์ แซ่ตั้ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแบบมีเงื่อนงำ, นายกันต์ แซ่ตั๊ง บุตรชาย, นางกุลนิดา แซ่ตั๊ง และ น.ส.กานติมา แซ่ตั๊ง ผู้เยาว์ โดยนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ในฐานะมารดาและผู้แทนโดยชอบธรรม ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ และ ส.ส.นครสวรรค์ เป็นคดีอาญาแล้ว รวมทั้งสิ้น 3 คดี ดังนี้ 1. ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนกับพวกได้กระทำความผิดอื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ทั้งนี้ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ อ.4915/2559 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 10 เม.ย. 2560 เวลา 09.00 น.

2. ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์, น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง, นางศรีธรา พรหมา มารดา น.ส.อรชา วชิรกุลฑล เป็นจำเลยที่ 1-3 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ลักทรัพย์ และรับของโจร ทั้งนี้ศาลรับคำฟ้องไว้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.3352/2559 และนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 30 ม.ค. 2559 เวลา 09.00 น.

3. นางศิริรัตน์ แซ่ตั้ง, นายกันต์ แซ่ตั๊ง, นางกุลนิดา แซ่ตั๊ง และ น.ส.กานติมา แซ่ตั๊ง ผู้เยาว์ โดยนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ในฐานะมารดาและผู้แทนโดยชอบธรรม ยังเป็นโจทก์ที่ 1-4 ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยที่ 1, น.ส.สุทธาสินี ศิลปพรหมมาศ จำเลยที่ 2, น.ส.เกติอุมา เอกันต์ จำเลยที่ 3 (จำเลยที่ 2, 3 เป็นพนักงานของ OSK) และจำเลยที่ 4 น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ลักทรัพย์ และรับของโจร ทั้งนี้ ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 3354/2559 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 20 ก.พ. 2560 เวลา 09.00 น.

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2559 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำสั่งครองชั่วคราว ในคดีหมายเลขดำ พ.1280/2559 ที่ น.ส.ศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และนายกันต์ แซ่ตั๊ง อายุ 23 ปี บุตรชายโจทก์ที่ 1-2 ในฐานะผู้จัดการมรดก นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิต ฟ้องแพ่ง น.ส.กัญฐณา ศิวาธนากุล หรือศิวาธนพล, พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์และพนักงานบริษัทอีก 2 คน เป็นจำเลยที่ 1-5

เรื่องขอเรียกคืนทรัพย์สินที่เป็นหุ้นของนายชูวงษ์ จำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท ซึ่งถูกโอนโดยมิชอบ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คืนกับโจทก์ทั้งสอง ที่เป็นภรรยาและบุตรชายของนายชูวงษ์ในฐานะผู้จัดการมรดกโดยได้มีการยื่นฟ้องคดีเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งต่อมาโจทก์ทั้งสองก็ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลด้วยเพื่อขอให้อายัดทรัพย์สิน 4 รายการ ประกอบด้วย หุ้นที่เหลือจำนวน 5.7 ล้านหุ้น, เงินในบัญชี, หุ้น WN ที่ น.ส.กัญฐณานำเงินจากการขายหุ้นของนายชูวงษ์ไปซื้อมา และบ้านพร้อมที่ดินย่านนนทบุรี ที่มาจากเงินหุ้นดังกล่าว

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลังจากที่นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ที่ 2 และครอบครัวได้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายชูวงษ์ พบว่าก่อนนายชูวงษ์จะถึงแก่กรรมมีการโอนหุ้นในพอร์ตบัญชีที่เปิดไว้กับจำเลยที่ 3 และออกให้กับจำเลยที่ 1 โดยมีข้อพิรุธหลายอย่าง หลังจากที่จำเลยที่ 1 รับโอนมาแล้วมีการโอนขายหุ้นหลักทรัพย์ EA อีกหลายครั้ง หลังทรัพย์บางส่วนมีการขายไปแล้วเป็นจำนวน 3,741,000 หุ้น คงเหลือหลักทรัพย์ EA ในบัญชีของจำเลยที่ 1 ณ วันที่ 31 ส.ค. 2558 จำนวน 5,759,000 หุ้น และ จำเลยที่ 1 ยังนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นจำนวนดังกล่าวไปซื้อหุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท เป็นเงิน 10,000,000 บาท คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายึดและอายัดทรัพย์สินทั้ง 4 รายการดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพอร์ตหลักทรัพย์บัญชีของจำเลยที่ 1

นอกจากนี้ยังได้ความว่า จำเลยที่ 1 ได้นำเงินบางส่วนที่ได้จากการขายหลักทรัพย์ไปซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ที่ ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในราคา 10,000,000 บาท ด้วย กรณีฟ้องโจทก์มีมูลและมีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ก่อนคำพิพากษา

จึงมีคำสั่งให้อายัดหุ้นหลักทรัพย์ EA จำนวน 5,759,000 หุ้น ที่อยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ของจำเลยที่ 1, หุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10,000,000 หุ้น ซึ่งอยู่ในพอร์ตบัญชีหลักทรัพย์ของจำนวนที่ 1 พร้อมทั้งอายัดเงินในบัญชีหลักทรัพย์ เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 จำนวน 55,980,275.87 บาท พร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 และ อายัดบัญชีกระแสรายวันธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 2 บัญชี เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 โดยมีหนังสือถึงธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 2. ห้ามจำเลยที่ 1 ทำพินัยกรรมจำหน่าย จ่ายโอนหรือสร้างภาระผูกพันใดๆ ในที่ดินโฉนด ที่ ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย

ด้านนายเอนก คำชุ่ม ทนายความของครอบครัวชูวงษ์ กล่าวว่า คำสั่งของศาลดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.นี้เป็นต้นไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตามกฎหมายฝ่ายจำเลยยังใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ อย่างไรก็ตาม คดีที่ฟ้องนี้เป็นส่วนคดีแพ่งที่เราใช้สิทธิตามกฎหมายเรียกคืนทรัพย์สินที่มีการโอนไปโดยมิชอบ ส่วนคดีปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้นที่เป็นคดีอาญายังต้องรอ ผบ.ตร.สรุปความเห็นส่งให้อัยการสูงสุด หลังจากที่อัยการกรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้นในชั้นแรก

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.