ฟังอีกมุม เมียครูเกษียณ แจงปมบุกตบเด็กป.2 ถึงบ้าน

0
912

ความคืบหน้ากรณี เมียครูเจอเด็ก ป.2 แลบลิ้นใส่ บุกตบถึงบ้านต่อหน้ายาย เหตุเกิดภายในหมู่บ้านกระสังสามัคคี  ต.สามแวง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้บุกเข้าไปทำร้าย น้องเติ้น อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ถึงในบ้านทั้งใช้ก้านมะยมตีขา มือตบปาก ดึงหู และกระชากจนศีรษะโขกกับเสา เพียงเพราะโมโหที่เด็กแลบลิ้นใส่ 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเพียบ ภรรยาครูเกษียณที่ถูกกล่าวได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาจะตามที่ถูกกล่าวหา เพียงอบรมสั่งสอนให้รู้ผิดถูกและกาลเทศะเหมือนลูกหลานเท่านั้น เนื่องจากวันเกิดเหตุน้องเติ้น และเด็กหลายคนได้เข้าไปเล่นในบ้านของตนเอง

ซึ่งวันนั้นมีตานอนป่วยอยู่ในบ้าน แล้วเด็กพากันเล่นเสียงดังพอตนออกมาบอกให้เด็กเล่นเบาๆ น้องเติ้น กลับใช้พฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยการแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทั้งยังตะโกนด่าตนเองกับตาที่นอนป่วยในบ้านด้วยถ้อยคำหยาบคายด้วย

จึงเกิดความโมโห จากนั้นก็เรียกเด็กๆ ทั้งหมดมาสั่งสอนว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกพร้อมใช้ก้านมะยมทำโทษทุกคน แต่ไม่ได้ทำรุนแรงเพียงตีเบาๆ พร้อมให้เด็กพูดขอโทษ จากนั้นก็ไปเล่นตามปกติ แต่น้องเติ้นกลับไม่ยอมให้ทำโทษและได้วิ่งหนีกลับบ้าน

ตนเองจึงเดินตามไปที่บ้านแล้วใช้ก้านมะยม 2 อัน ซึ่งเป็นอันเดียวกับที่ใช้ทำโทษเด็กที่ไปเล่นในบ้านเข้าไปตีขาน้องเติ้น ก่อนจะใช้มือตีปากเบาๆ และดึงหู พร้อมอบรมด้วยว่าอย่าทำแบบนี้อีกมันไม่สมควร

ซึ่งก่อนจะทำโทษก็ได้บอกกับนางอุไร ยายของน้องเติ้น ก่อนแล้ว ซึ่งยายก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้พูดข่มขู่จะเอาชีวิตน้อง เหมือนที่ถูกกล่าวหาด้วย อาจจะเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้เรียกทั้ง 2 ฝั่งเข้าไปพูดคุย และขอโทษกันจนจบเรื่องแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรจึงมีเรื่องราวเป็นข่าวขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ นางเพียบ ยังได้ขอความเห็นใจจากสังคมว่าควรจะฟังข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย ไม่ควรจะตัดสินจากฝ่ายเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวตนเองเสียหาย

ขณะที่ นางเสาวดีและนางอุไร แม่และยายของน้องเติ้น ได้เดินเข้าแจ้งความ ที่ สภ.ห้วยราช เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานว่าลูกถูกทำร้าย แต่ก็ไม่ได้อยากให้มีเรื่องราวบานปลาย เพียงอยากให้อีกฝ่ายออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือขอโทษกับสิ่งที่กระทำเท่านั้น

ขณะเดียวกัน นางเพียบและครอบครัว ซึ่งเป็นคู่กรณี ก็ได้เดินทางมาที่ สภ.ห้วยราช เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกฝ่ายผู้เสียหาย หมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียเช่นกัน แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างบอกตรงกันว่าไม่ได้ต้องการให้เรื่องราวบานปลาย แต่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายจะมาแจ้งความจึงได้มาแจ้งความ พร้อมบอกตรงว่าหากมีคนกลางจะพูดคุยไกล่เกลี่ยให้ก็พร้อมจะไกล่เกลี่ย เพื่อให้จบเรื่องไม่ต้องผิดใจกัน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เพียงรับแจ้งไว้และจะทำการสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามขั้นตอนเท่านั้น

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.