วันที่ 4 พฤศจิกายนเวลา 07.30 น. ที่ท้องสนามหลวง บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ เป็นวันที่ 7 ว่า ยังคงมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ เข้าแถวรอคิวตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด มากันเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 3 พฤศจิกายน เพื่อให้มาถึงในช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 พฤศจิกายน บางกลุ่มเดินทางมานอนพักค้างคืนในสถานที่ที่กรุงเทพมหานครจัดไว้ให้ เพื่อจะได้เข้าแถวรอคิวลำดับต้นๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆคอยอำนวยความสะดวก และมีเก้าอี้ให้นั่งพักรอในเต๊นท์เป็นระยะ สำหรับคนชรา และผู้พิการจะได้รับการดูแลเป็นกรณีพิเศษ และจัดให้ประชาชนขึ้นไปบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นชุดๆละ 100-120 คน
พสกนิกรต่างเดินทางมาถึงเพื่อจะเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ
ตั้งใจมาวันนี้เนื่องจากกลัวว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะได้เห็นน้ำใจคนไทยมากมาย บรรดาจิตอาสาต่างแจกของให้กับประชาชนที่ทำถวาย”ในหลวง” อยากให้คนไทยมีความสามัคคีแบบนี้ตลอดไป พร้อมติง “พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ที่ออกมาให้ข่าวทางสื่อ ว่า กทม.ให้จิตอาสา ทำการแจกอาหารและอื่นๆ คาม เวลา เช้า กลางวัน เย็น โดยเน้นย้ำว่า คนนั้นกินสามมื้อ ด้วยเพียงเหตุผลว่างานเก็บขยะมาก ยากต่อการทำความสอาด ซึ่ง กทม.กระทำขัดสถานะการณ์ในยามนี้และต่อใจที่มุ่งมั่นของผู้ไปถวายจิตกุศลถวายต่อ”พ่อ” ที่
จะแสดงออกต่อการให้ผู้มาเดินมาสักการะ”พ่อ”มีความสุข มีอาหาร-เครื่องดื่มและสิ่งๆได้ตลอดเวลา ด้วยต้องเดินทางมาไกลจากทั่วสารทิศ ด้วยใจที่อาลัย”พ่อ”ที่สนามหลวงตลอดวัน ตลอดคืน ไม่ได้มาเฉพาะ เช้า กลางวัน เย็น รวมทั้ง กทม. ยังพยายามไม่ให้มีพสกนิกรอยู่ที่ในสนามหลวงช่วงกลางคืนพักค้าง ถึงขนาดเคยออกข่าวว่า ไม่อยากให้เป็นถนนคนเดิน ซึ่งพสกนิกรไม่ใช่อยากไปลำบากอดหลับอยู่อย่างลำบากในท้องสนามหลวงหรอก ท่าน”ผู้ว่า กทม.”เคยไปร่วมอดหลับอดนอนร่วมกับประชาชนใหม จะรู้ว่าลำบากขนาใหน ทั้งยุง ทั้ง เมื่อย ทั้งง่วง ทั้งเพลีย แถมบางทีฝนตกอีก สนามแฉอะแฉะอีก อยากให้”ผู้ว่า กทม.”มาร่วมนั่งที่ท้องสนามหลวงร่วมกับประชาชนสักคืน จะได้เปลี่ยแนวคิดรู้ฃึ้งถึงคนที่มาทนอดหลับอดนอนได้ตลอดคืนก็ด้วยใจรัก”พ่อ”อยากใช้เวลาที่อยู่ใกล้”พ่อ”มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นทางจิตอาสาจึงมีความจำเป็น ที่จะไห้ลูกของ”พ่อ”เดินทางมาเหน็ดเหนื่อยเหนื่อย ได้มีอาหาร-เครื่องดื่ม รับทานได้ตลอดเวลาที่เมื่อต้องการทาน ทั้งๆที่ผู้มีจิตอาสาเป็นผู้มีจิตอาสาเอง กทม.มิใช่เป็นผู้กระทำเสียด้วย ยังจะมาขัดความมีจิตอาสาอันเป็นการกระทำเพื่อ”พ่อ” เข้าทำนองไม่ทำยังขัดขวางอีก เพียงเหตุผล ความเป็นระเบียบ ขยะล้น ทำความสอาดยาก นี่เป็นการแสดงออกจงรักภักดีต่อ”พ่อ” ทางผู้ว่า และเจ้าหน้าที่ กทม. ควรใช้วิสัยทัศน์ที่กว้างมากกว่านี้
ทั้งผู้มีจิตอาสาที่นำอาหารและเครื่อง และสิ่งต่างๆที่ไปร่วมแจกจ่าย และพสกนิกร ที่ไปอยู่สักการะยามค่ำคืน ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันให้ ทาง “ผู้ว่า กทม” เจ้าหน้าที่ กทม. ทบทวนการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ได้มีการกระทำสอดคล้องต้องตามสถานะการณ์ดังเช่นปัจจุบันหรือไม่ ควรดูการปฎิบัติงานของหน่วยอื่น๐ ที่มีการแก้ไขเหตุการณ์ให้ทันต่อสถานะการณ์ตลอดเวลา แต่ กทม.คิดแค่ทำงานง่ายๆเป็นพื้นฐาน เป็นคำกล่าวจิตอาสา และ พสกนิกร กล่าวทิ้งท้าย ถึงการทำงาน ของ “กรุงเทพมหานคร” ฃึ่งเป็นเสมือนเจ้าบ้านให้ทบทวนการทำงาน ให้สอดตล้องกับสถานะการณ์ในทุกๆสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้น ต่อจากนี้ไป
