พสกนิกรทั่วทุกทิศทั้งประเทศเนืองแน่นเข้า ถวายสักการะ” พระบรมศพ” ……“แม่อุ้ย” ชาวเชียงใหม่วัย 70 ปี ตั้งจิตแน่แน่วมาแต่ตี4

0
1797

มีพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.ทุกวัน โดยวันนี้สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะก่อนเวลาตั้งแต่เวลา 05.15 น.

ได้มีประชาชน ส่วนใหญ่ที่มาต่อแถวรอตั้งแต่ช่วงเช้ามืด จะเป็นผู้ปักหลักค้างคืนที่ท้องสนามหลวง ซึ่งต้องเผชิญกับสายฝนโปรยปรายเป็นระยะตลอดทั้งคืน ต่างพยายามเข้าไปปักหลักรอที่เต้นท์หรือหาร่ม แผ่นพลาสติกมาคลุมนั่งและนอนรออย่างใจจดจ่อ ประชาชนบางส่วนเป็นผู้มาต่อแถวรอตั้งแต่ช่วงเช้ามืดและรอมาตลอดทั้งวันของวันที่ 29 ตุลาคม แต่ยังไม่ได้เข้า เนื่องจากมีหมู่มวลพสกนิกรจำนวนมาก อีกทั้งยังประสบปัญหาการแอบแซงคิว และความสับสนในการต่อแถวต่างๆ แต่ก็มีจิตใจมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ

ทั้งนี้ ภายหลังจากเปิดเข้าถวายสักการะไม่นาน พสกนิกรจากทั่วประเทศพร้อมใจใส่ชุดสีดำสุภาพ ทยอยเดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้าสักการะเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่จัดต่อแถวตอนเรียง 4 แต่แถวก็ยาวล้นออกไปนอกพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี มาที่ถนนหน้าพระธาตุตลอดทั้งเส้น วกเข้าไปในท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้วนไปทางทิศตะวันออก ก่อนวกเข้ากลางท้องสนามหลวงวกไปวนมา ท้ายแถวยาวกว่า 3 กิโลเมตร

ประชาชน 01.

นางวรรณา เอียดพระพาย อายุ 50 ปี ชาวจ.สงขลา เดินทางออกจากบ้านมาถึงสนามหลวงเวลา 10.00น. ของวันที่ 29 ตุลาคม แต่ก็ยังไม่ทันเข้าไปถวายสักการะ กล่าวว่า เมื่อวานมีพสกนิกรมารอต่อแถวถวายสักการะเป็นจำนวนมากทำให้เข้าไม่ถึง แต่ด้วยความตั้งใจ่าจะต้องมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศให้ได้ แม้จะต้องนอนค้างคืนที่สนามหลวง ตลอดทั้งวันเจอแดด เจอฝน แต่ก็อดทนได้

“สิ่งที่ดิฉันและคนไทยอีกหลายคนได้พบเมื่อวาน เป็นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวทรงทำเพื่อคนไทย พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกาย ทนแดด ทนฝน ทุกพื้นที่ทุรกันดาร หรือแม้แต่พื้นที่เสี่ยงภัยพระองค์ก็มิได้ทรงหวั่นเกรง เสด็จฯไปทุกที่เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพสกนิกรของตัวเองให้อยู่ดีกินดี เพราะฉะนั้นเมื่อนึกถึงพระราชจริยวัตรเหล่านี้ของพระองค์ท่านแล้ว แดดฝนแค่นี้ที่เราเจอล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อย” นางวรรณาเล่าทั้งน้ำตา

นางแสงเอ้ย ไชยา อายุ 70 ปี ชาวจ.เชียงใหม่ ลงทุนเหมารถบัส 2 คันร่วมมากับเพื่อนๆเพื่อจะมาถวายความอาลัย กล่าวว่า มาถึงที่นี่ตั้งแต่เวลา 04.00น. ก็ดีใจที่ได้มาถวายสักการะพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย จากที่แต่ก่อนได้รับเสด็จบ่อย พระองค์เสด็จฯไปทรงงานที่จ.เชียงใหม่ ทรงมีโครงการพระราชดำริมากมาย เปลี่ยนแปลงจ.เชียงใหม่มากมาย ตั้งแต่ทรงเปลี่ยนพื้นที่ปลูกฝิ่นมาเป็นปลูกพืชที่ขายได้ ทรงพระราชทานที่ดินทำกิน ทรงแนะนำการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทำให้ผลผลิตปลอดสารพิษ ตลอดจนโครงการหลวงต่างๆ จึงไม่แปลกที่คนเชียงใหม่รักพระองค์มาก เช่นเดียวกีบคนทั่วโลกที่ทราบถึงความดีพระองค์ ส่วนตัวก็จะขอทำความดี ๆเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ตลอดจนสอนลูกหลานให้รู้จักและเจริญรอยตามพระยุคลบาทต่อไป

นางบุญเจียม สระพัง อายุ 62 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี มาถึงตั้งแต่เวลา 04.00น. กล่าวว่า ตนมาตั้งแต่วันเชิญพระบรมศพแล้ว มาลงนามถวามความอาลัยที่ศาลาสหทัยสมาคมบ่อยๆ และมาถวายสักการะในวันนี้ ทั้งนี้ พระพระองค์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ว่าพื้นที่ทุรกันดารแค่ไหนก็ทรงอดทนบุกบั่นเสด็จฯไป อย่างที่จ.อุบลฯ เคยเสด็จไปทั้งสองพระองค์ อย่างที่อำเภอเขื่องในที่ตนอยู่ มีโครงการผ้าไหมในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงส่งเสริมให้ชาวบ้านประกอบอาชีพทอผ้าและรักษาภูมิปัญญาผ้าไหมบ้านสร้างถ่อดั่งเดิมไว้ ส่วนตัวยังน้อมนำคำสอนคำแนะนำมาปฏิบัติใช้ อย่างอาชีพทำนาที่ปัจจุบันยังทำอยู่ ก็ทำแบบพอเพียงแบบให้อยู่ได้ พอกิน พอขายได้ จะไม่ลงทุนมากเพื่อไม่เป็นไนี้เขา รวมถึงใช้ปุ๋ยชีวภาพ ไม่ใช้สารเคมีเลย ทั้งนี้ ตั้งใจจะมาถวายสักการะอีก ยังไม่กลับบ้าน รวมถึงจะแนะนำลูกหลานให้รู้ว่าพระองค์ทำอะไรมาบ้าง ให้ลองน้อมนำคำสอนมาปฏิบัติใช้ เช่น การประหยัด อดทน การรักคนไทยด้วยกัน

ประชาชน 02

โดยในเวลา 08.10น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในนามสำนักนายกฯ นำพันธุ์ข้าวสาร จากกรมการข้าวจำนวน 20,000 ถุง บรรจุภายในถุงสีขาว ติดฉลากพร้อมข้อความว่า “พอเพียง” ซึ่งได้อัญเชิญลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มามอบให้ประชาชนที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังและหน่วยงานเอกชน ต่างนำน้ำดื่ม อาหาร นม ยาดม รวมไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์มามอบให้กับประชาชนเป็นที่ระลึกด้วย ที่บริเวณระหว่างประตูสรีสุนทรและประตูเทวาภิรมย์

นายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายหนึ่งเดียวของ นายถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพ.ศ.2544นำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาแจกประชาชนที่มาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ บริเวณประตูวิเศษไชยศรี กล่าวว่า วันนี้นำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดช มาแจกให้ประชาชนจำนวน 2 หมื่นใบ โดยภาพล็อตแรกนี้คัดเลือกภาพที่มีคุณภาพดีทั้งหมด 9 แบบ เป็นภาพที่เห็นกันคุ้นเคย ส่วนใหญ่ฉลองพระองค์เป็นทางการ นำมาแต่งใส่กรอบแล้วอัดด้วยกระดาษอย่างดี เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะคนที่มาร่วมงานหลายคนมาจากต่างจังหวัด อาจไม่รูปแบบนี้เก็บไว้

“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนำมาแจก 2 หมื่นใบก่อน ส่วนครั้งต่อไปอีก 2 หมื่นใบจะนำมาแจกอีกประมาณสัปดาห์หน้า โดยจะแจกที่จุดนี้หมือนเดิม แต่ภาพจะแตกต่างจากครั้งนี้จะเป็นภาพจากธีมช่างภาพส่วนพระองค์ เป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยนัก เพื่อให้ประชาชนได้เก็บไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป ”

นายดอยธิเบศร์ กล่าวอีกว่า ตระกูลของตัวเองรับใช้พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ด้วยความจงรักภักดีเสมอมา และนับจากนี้ไปในฐานะพสกนิกรจะเดินหน้าทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่ว่าใครมีความเชี่ยวชาญด้านไหนก็ควรทำอย่างเต็มความสามารถ เช่นเดียวกับ 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไม่เคยหยุดทรงงาน นั่นเองจึงเป็นที่มาให้ตัวเองใช้ความสามารถที่มีอยู่ทำรูปเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนนึกถึงพระองค์ท่าน

S__3997722

S__3997718

S__3997723

S__3997738

S__3997725

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.