พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย โครงการบ้านประชารัฐ ที่รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรืออาชีพอิสระให้มีที่อยู่อาศัย ว่า จากข้อมูลล่าสุดวันที่ 23 มีนาคม – 18 เมษายน ประชาชนยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน รวม 33,050 ราย อนุมัติแล้ว 1,628 ราย แบ่งเป็นกู้ผ่าน ธอส. 1,698 ราย อนุมัติ 332 ราย ธ.ออมสิน 31,352 ราย อนุมัติ 1,296 ตัวเลขขอสินเชื่อเกินกว่าวงเงินที่รัฐบาลเตรียมไว้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ที่ต้องการสร้างโอกาสการมีบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ครู และผู้มีรายได้ไม่แน่นอน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์
พลตรี สรรเสริญ ยังกล่าวว่า จากการตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้ทั้ง 2 ธนาคาร พบว่า มีบางส่วนไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น ผู้กู้หรือคู่สมรสมีกรรมสิทธิ์บ้านหลังอื่นมาแล้ว ผู้กู้อายุมากเกินเกณฑ์กำหนด บ้านพร้อมที่ดินมีราคามากกว่า 1.5 ล้านบาท ต้องการปลูกหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยบนที่ดินของคนอื่น หรือต้องการที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ทำให้ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ต้องเปิดรับคำขอสินเชื่อจากผู้ที่สนใจต่ออีกระยะ โดย ธ.ออมสิน ซึ่งปิดรับคำขอเมื่อวันที่ 1 เมษายน เปิดรับคำขอสินเชื่อรอบ 2 ถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี รู้สึกยินดีที่ประชาชนตอบรับโครงการเป็นอย่างดี แต่ยังเป็นห่วงผู้กู้จำนวนหนึ่ง ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ขอสินเชื่อ โดยเฉพาะข้าราชการที่มีปัญหาหนี้ครัวเรือน อาจไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งรัฐบาลจะประเมินผลโครงการฯ หลังจากได้ดำเนินการไประยะหนึ่ง เพื่อปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว และเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง