นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงปัญหาประเด็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนที่เดินทางมายังวัดโสธรวรารามวรวิหาร ว่า มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัญหา อยู่ 2 – 3 สาเหตุ ประการแรก คือ มีผู้ที่เข้าไปทำการคอยเรียกโบกรถ ก็จะทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ จากการที่ได้มีการโบกรถพาไปจอดแล้ว ก็ต้องซื้อสินค้า เช่น พวงมาลัย และดอกไม้ธูปเทียน จากกลุ่มผู้โบกรถโดยตรง หรือจากร้านค้าที่ผู้โบกรถชี้นำให้ไป ซึ่งก็จะมีการขายในราคาที่แพงกว่าปกติ จะเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการก่อเหตุความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งมีโทษแค่ปรับ ในอัตราสูงสุดแค่เพียง 500 บาท และในส่วนที่ขายเกินราคากว่าสมควรนั้น มีโทษปรับไม่เกิน 400 บาท ทำให้ผู้กระทำผิดนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงกระทำผิดอยู่ซ้ำ ๆ กันไป
ในส่วนของทางตำรวจเองนั้น หลังจากนี้ก็จะได้มีการทำประวัติบุคคลไว้ และยังได้มีการหารือกับทางกองพลทหารราบที่ 11 ไว้แล้วด้วยว่า หากมีผู้ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และขายสินค้าเกินราคา และมีการกระทำอยู่บ่อย ๆ แบบซ้ำซากนั้น จะใช้มาตรการตามประกาศ คสช. มาตรา 13 โดยให้ทางทหารนั้นนำตัวไปอบรม หรือนำตัวไปควบคุมไว้ยังภายในค่ายทหารได้ไม่เกิน 7 วัน เป็นมาตรการในการปราบปราม
ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น ต่อไปในช่วงของเทศกาลวันหยุดยาว ที่สำคัญ ๆ ที่จะมีประชาชนเดินทางเข้ามาทำบุญยังที่บริเวณวัดโสธรเป็นจำนวนมากนั้น ก็อาจจะมีการเข้าไปตั้งเป็นศูนย์บัญชาการภายในบริเวณวัด ซึ่งก็จะจัดกำลังผสมร่วมกันทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ พลเรือน และฝ่ายปกครอง ที่จะไปตั้งศูนย์บริการประชาชนในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่บริเวณด้านหน้าวัด