นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ. ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ตามที่สำนักงานก.ค.ศ.เสนอร่างมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน และเงื่อนไขเกี่ยวกับประสบการณ์ในตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า ดังนี้ กำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง เพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ให้มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง เป็นเวลา 5 ปี จึงจะขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้นในแต่ละระดับ
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบ ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะใหม่ สายงานการสอน ร่างตัวชี้วัดการประเมินผลการปฏิบัติงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดการเรียนการสอน และร่างบทเฉพาะกาลหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ โดยร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะใหม่ สายงานการสอน ผู้จะขอมีหรืเลื่อนวิทยฐานะจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะ ในแต่ละระดับ 5 ปี มีชั่วโมงการปฏิบัติงานตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด คือ ชำนาญการ และชำนาญการพิเศษ 800 ชั่วโมงต่อปี เชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ 900 ชั่วโมงต่อปี ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย/จรรยาบรรณวิชาชีพ ย้อนหลัง 3 ปีการศึกษา นับถึงวันที่ยื่นคำขอและในระหว่างการดำเนินการจนถึงวันที่ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)กศจ. หรือ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ เป็นต้น ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ที่มีสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ฯเดิม จะไม่เสียสิทธิ์ โดยกำหนดใน ร่างบทเฉพาะกาลหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังนี้ผู้ที่ยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ไว้ ก่อนการประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่ ต่อมาทราบผลการประเมินภายหลังเกณฑ์ใหม่ประกาศใช้ สามารถยื่นขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่หลักเกณฑ์กำหนด ผู้ที่ดำรงตำแหน่งครู อยู่ก่อนวันที่ประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่ แต่ยังมีคุณสมบัติไม่ครบตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 สามารถยื่นขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 ได้ ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีคุณสมบัติครบ แบะผู้ทีมีคุณสมบัติในแต่ละวิทยฐานะครบ ตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ตั้งแต่วันที่หลักเกณฑ์ใหม่ประกาศใช้ สามารถยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ได้ ภายใน 1 ปี นับจากวันที่หลักเกณฑ์ใหม่ประกาศใช้ ส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติครบทั้งเกณฑ์เก่าและเกณฑ์ใหม่ สามารถเลือกยื่นขอรับการประเมินได้ตามเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง ในช่วงเปลี่ยนผ่านหากข้าราชการครู มีความประสงค์จะยื่นขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ใหม่ แต่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ ก.ค.ศ. จะมีหลักการเทียบคุณสมบัติให้ ทั้งนี้ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ใหม่ดังกล่าวจะประกาศใช้วันที่ 5 กรกฎาคมนี้
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบ ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. …… ร่างฐานในการคำนวณและช่วงเงินเดือนสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละอันดับ ของข้าราชการครุและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และ ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นการเลื่อนเงินเดือนแบบเปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนและอนุมัติให้การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในรอบการประเมินผลการปฏิบัติงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2560ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเดิมไปพลางก่อน ขณะเดียวกันที่ประชุมยังอนุมัติหลักเกณ์และวิธีการคัดเลือก ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ให้มาดำรงตำแหน่งในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เฉพาะการเกลี่ยในรอบแรก ที่กำลังจะดำเนินการ โดยคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติครบตามเดิม แต่เพิ่มการประเมินใน 3 เรื่องคือ ประเมินความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ประเมินความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ และประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง ทั้งนี้เพื่อให้การจัดสรรอัตรากำลังเป็นไปตามกรอบที่กำหนด นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบกรอบอัตรากำลังในสำนักงานศธจ. แบ่งเป็นขนาดจังหวัด ดังนี้ ขนาดใหญ่พิเศษ 11 จังหวัด 68 ตำแหน่ง ขนาดใหญ่ 8 จังหวัด 65 ตำแหน่ง จนาดกลาง 27 จังหวัด 60 ตำแหน่ง และขนาดเล็ก 31 จังหวัด 56 ตำแหน่ง