เมื่อวันที่ 21 เม.ย ทาง Facebook ก็ได้ประกาศถึงการปรับเปลี่ยน News Feed ใหม่ของผู้ใช้งาน ว่าจะกำหนดคอนเทนท์ใน Feed ตามความสนใจของผู้ใช้เป็นหลัก โดยคอนเทนท์หรือเนื้อหาที่คุณจะได้เห็นก่อนนั้นจะเป็นคอนเทนท์และเนื้อหาที่คุณชื่นชอบและให้ความสนใจ จุดมุ่งหมายในการปรับเปลี่ยนคราวนี้ก็คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน และลดการซ้ำซ้อนของเนื้อหาในหน้า News Feed ลง
การตรวจสอบของ Facebook ว่าผู้ใช้คนไหน ชอบอ่านอะไร ชอบดูอะไร ?
Facebook (เฟซบุ๊ก) มีการสอบถามผู้ใช้งานหลายพันคนอยู่เสมอว่า ผู้ใช้งานนั้นชื่นชอบให้มีข้อมูลลักษณะใดปรากฏอยู่บน News Feed ของพวกเขาบ้าง ซึ่งพวกเขาเปิดเผยว่า ซึ่งสิ่งที่ตระหนักได้จากการสอบถามผู้ใช้งานคือ การกดไลค์ การคอมเมนต์ หรือการแชร์บทความนั้นๆไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่า โพสต์นั้นๆ จะมีความสำคัญต่อผู้ใช้งาน เช่น ผู้ใช้รายหนึ่งอาจกดไลค์ให้แก่โพสต์ของญาติอยู่เสมอ บางครั้งอาจเป็นเรื่องเศร้า หรือเรื่องซีเรียส ซึ่งการกดไลค์นั้นก็ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า ผู้ใช้รายนั้น “รู้สึกพอใจหรือไม่พอใจ” ที่ได้เห็นโพสต์จากญาติทุกวัน ซึ่งการสอบถามนั้นก็ควบคู่ไปกับการใช้ algorithms (อัลกอลิทึม คือ การลำดับขั้นตอนที่แน่นอนที่ใช้ในการแก้ปัญหา) ในการแมทช์คอนเทนท์กับความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการสำรวจผู้ใช้อย่าง การไลค์, การคลิ๊ก, การคอมเม้นท์ หรือ การแชร์ จะช่วยให้ algorithms ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นั่นหมายถึง Facebook จะแมทช์หน้า News Feed ได้อย่างตรงใจคุณกว่าเดิม
นอกจากนี้ Facebook ยังลดการโชว์คอนเทนท์ซ้ำๆที่มาจากแหล่งเดียวกัน ลดแถวยาวของการแชร์บทความเดียวกันจากเพื่อนหลายคน ในขณะเดียวกันก็พร้อมเสิร์ฟเนื้อหาใหม่ๆตามความสนใจและความชอบของผู้ใช้เข้าไปแทนที่ ทำให้คุณได้พบกับเนื้อหาที่หลากหลายของหน้า News Feed มากยิ่งขึ้น
หลักการที่ Faebook ใช้เลือกเนื้อหามาโชว์บนหน้าฟีดคุณ
“การนำเอาระยะเวลาในการอ่านของผู้ใช้งาน (Spend Time Viewing) มาร่วมประมวลการแมทช์คอนเทนท์ด้วย” โดยจะประมวลระยะเวลาที่คนใช้งานบนหน้าคอนเทนท์ในบราวเซอร์ Facebook หรืออ่านผ่าน Instant Article โดยเริ่มคำณวนหลังจากโหลดหน้านั้นเสร็จ algorithms (อัลกอลิทึม) ใหม่นี้จะเริ่มถูกนำมาใช้งานจริงในสัปดาห์หน้า
แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าหากหน้า News Feed นั้นมีแต่เรื่องราวเราสนใจ มันจะทำให้การรับรู้ข่าวสารของเราแคบลงหรือไม่ เพราะเหมือนกับว่าเราจะจดจำและใส่ใจแต่เรื่องที่เราสนใจ จนไม่ได้รับรู้เรื่องราวอย่างอื่นเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ Facebook ว่าจะพัฒนา และยกระดับการใช้งานให้ดีขึ้นอย่างไรต่อไป!!
ที่มา : newsroom
