ต้องอ่านเบื้องลึก..ใครคือทีมฆ่าตัวจริง??..แน่ใจ!!..หรือ”เปรี้ยว….หัวหน้าและทีมร่วมฆ่าหั่นศพ “แอ๋ม”ตัวจริงหรือแค่ตัวละคร-ฉากฆาตกรรม ข้อหานี้ติดตัวไปทั้งภพนี้และภพหน้า ทิ้งปริศนา!!!!..มือฆ่าตัวจริงไปกับกาลเวลา ถ้าฟ้าปราณีลิขิตให้ถูกจับส่งไทย นี่แหละ..มีฃีวิตที่เกิดใหม่

0
1960

ปริศนาใคร???คือทีมฆ่าตัวจริง   ถ้ามีชิวิตได้กลับประเทศไทยฃีวิตจะรอด ..แน่ใจหรือ”เปรี่ยว”และทีมนี้ได้ฆ่าหั่นศพจริงใหม?? ชีวิตหลุดพ้นแน่นอนถ้ายังมีชีวิตกลับมาพิสูจน์

สุดท้าย….ชีวิตพวกเขาต้องเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่ กาลเวลาจะพิสูจน์ ขึ้นอยู่กับว่าจะออกในรูปแบบไหน  แต่ถ้าชื่อและชีวิตเขาเหล่านั้นจะถูกลบทิ้งที่ต่างแดน ความผิดนี้จะติดตัวตามไปในภพหน้า ทิ้งอดีตให้ตัวจริงหลุดพ้นลอยนวล เพราะที่แน่ๆๆ ทั้งหมดอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับสู่อ้อมอกประเทศไทยบ้านเกิดแน่แท้ นอกเสียจาก  ฝ่ายพม่าจะจับตัวส่งทางการไทย ถ้าเป็นเช่นนั้น ถือว่าชตาชีวิตของคนเหล่านั้นยังโชคดี แต่ที่ค่อนข้างจะแน่ชัด คนเหล่านี้จะสูญหายไปจากโลกนี้ โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย แล้วข้อหาที่ฆ่าหั่นศพ จะติดตัวไปจนภพหน้า ทั้งๆๆที่บุคลเหล่านี้มิใช่ตัวการ เป็นแค่ลครตัวประกอบเรื่อง “ฆาตกรรมหั่นศพ..แอ๋ม” เท่านั้น……!!!!!!!!!!!!!!!!!

ากกรณี น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น อายุ 25 ปี , น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว อายุ 24 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในข้อหา ‘ร่วมกันฆ่าผู้โดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ’ คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ ‘น้องแอ๋ม’ ซึ่งหายไปจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมา หลังจากเจ้าหน้าที่ไทยสืบทราบว่าไปกบดานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีข่าวว่าทั้งหมดหนีไปอยู่ในความดูแลของชนกลุ่มน้อยกลุ่มว้าแดง หรือกลุ่มมูเซอ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.60 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.ปรียานุช และพวก พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะ น.ส.ปรียานุช เป็นทั้งผู้ค้าและเสพ จากแนวทางการสืบสวนพบว่า น.ส.ปรียานุช ยังได้ติดต่อกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่กลุ่มหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เนื่องจากมีการนำยาเสพติดเข้ามาขายในพื้นที่ให้กับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานกลางคืนด้วยกัน จึงคาดว่า น.ส.ปรียานุช น่าจะไปขอความช่วยเหลือกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ในการหลบซ่อนตัว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นกลุ่มใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ส่วน น.ส.วริสรา เบื้องต้น ป.ป.ส. ไม่พบว่ามีประวัติการใช้ยาเสพติด จึงคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความแค้นส่วนตัว มากว่าจะมีใบสั่งฆ่ามาจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด

นายศิรินทร์ยา กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ที่ น.ส.ปรียานุช ได้มีการโพสต์ความเป็นอยู่ และการใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยผ่านทางเฟซบุ๊กที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลว่าเงินดังกล่าวมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ถ้ามีหลักฐานชี้ชัดว่าเงินดังกล่าวอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติด ตนจะประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เตรียมเข้ายึดทรัพย์ต่อไป

รายงานข่าวจาก ป.ป.ส. แจ้งว่า ขณะนี้ น.ส.ปรียานุช พร้อมกับพวกที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น คาดว่าเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตคุ้มครองของกองกำลังอิสระกลุ่มชาวเขาเผ่ามูเซอ โดยมี พ.ท.ยี่เซ เจ้าพ่อค้ายาเสพติดเป็นหัวหน้ากองกำลัง และมีเขตพื้นที่อิทธิพลของตัวเองชัดเจน ซึ่งทางการเมียนมาเองก็ยังไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย

เขาว่ากันว่า “เปรี้ยว” มือสังหาร “น้องแอ๋ม” ฝากตัวรับใช้ “ว้าแดง” เครือข่ายยาเสพติดยักษ์

รู้จัก “กลุ่มว้าแดง” แหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่นับล้านเม็ด ที่ “บังรอน” ซุกหัวนอน มาถึงวันนี้ ว่ากันว่า สามสาว “เปรี้ยว – เอิร์น – แจ้ง” หนีคดีฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ไปพึ่งใบบุญที่นู่น

การคลี่คลายคดีที่ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะที่ถูกฆ่าหั่นศพ และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ได้แก่ นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี และ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ อายุ 21 ปี

ส่วนอีก 2 ราย ได้แก่ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว อายุ 24 ปี และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น อายุ 25 ปี ออกจากชายแดนด้านแม่สาย จ.เชียงราย ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ของพม่า ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา

และพบว่า บัตรผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาส หมดอายุไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. โดยออกนอกประเทศ พร้อมกับ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ง อายุ 28 ปี

กระทั่งมีรายงานว่า ได้ไปพักพิงอยู่กับ “กลุ่มว้าแดง” โดยก่อนหน้านี้ไปอาศัยร้านคาราโอเกะที่ชื่อว่า “สตาร์เทรค คาราโอเกะ” ซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มว้าแดง แล้วออกไปเมื่อ 28 พ.ค.

หลายคนคงสงสัยว่า “ว้าแดง” เป็นใคร เกี่ยวข้องกับสองสาวอย่างไร?

เขาว่ากันว่า “เปรี้ยว” มือสังหาร “น้องแอ๋ม” ฝากตัวรับใช้ “ว้าแดง” เครือข่ายยาเสพติดยักษ์

ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน ตรงข้าม อ.เมืองฯ จ.แม่ฮ่องสอน ขึ้นไปจนถึงพื้นที่ตรงข้าม จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย มีชนกลุ่มน้อยจำนวนหลากหลายกลุ่มยึดครองพื้นที่อยู่บนพื้นที่รัฐฉาน

ได้แก่ กลุ่มว้าอิสระ (WNA), กลุ่มกองทัพกู้ชาติแห่งรัฐฉาน (SSA), กลุ้มว้าแดง (UWSA), กลุ่มกองทัพรัฐฉานใต้ (SSS) มีโรงงานผลิตยาเสพติด นับสิบโรง ทั้งขนาดเล็ก กลาง และ ขนาดใหญ่

เป็นแหล่งผลิตยาเสพติด ส่งเข้ามาจำหน่ายในไทย และใช้ไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งไปยังประเทศที่ 3 ทั้งในกลุ่มโซนอเมริกา, เอเชีย และยุโรป

เงินที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติดจำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่เป็นเงินบำรุงกองทัพของชนกลุ่มน้อย และรวมไปถึงการจ่ายส่วย ทำให้ยาเสพติดจำนวนมาก ยังคงทะลักเข้าสู่ไทย จนปราบปรามไม่หวาดไม่ไหว

โรงงานผลิตยาบ้าของชนกลุ่มน้อยแต่ละแห่ง มีขีดความสามารถในการผลิตเฮโรอีน และยาบ้า แต่ละโรงงานผลิตยาบ้าได้มากถึง 1 ล้านเม็ดต่อหนึ่งวัน รวมวันละมากถึง 7 ล้านเม็ด

เขาว่ากันว่า “เปรี้ยว” มือสังหาร “น้องแอ๋ม” ฝากตัวรับใช้ “ว้าแดง” เครือข่ายยาเสพติดยักษ์

ข้อมูลจากกองกำลังผาเมือง ระบุว่า ต้นทุนในการผลิตยาบ้าของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้เพียงแค่เม็ดละ 10 บาท ขายปลีกเม็ดละ 25 บาท แต่เมื่อการลำเลียงเป็นไปด้วยความลำบาก ต้องหลบหนีตำรวจและทหาร ราคาขายจะสูงขึ้นตกเม็ดละ 50 บาท

เมื่อไปถึง จ.เชียงใหม่ จะขายกันในราคาต้นทุนเม็ดละ 80 บาท ก่อนที่จะถูกลำเลียงผ่านช่องทางต่างๆ หากสามารถเข้าถึงกรุงเทพฯ ได้ ราคาขายจะสูงถึงเม็ดละ 180 – 200 บาท และถ้าส่งไปถึงภาคใต้จะมีราคาถึงเม็ดละ 300 บาท

ทุกวันนี้เราจะเห็นสารพัดวิธีลำเลียง ที่ตำรวจและทหารมักจะตามจับกุมตัวได้ เป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ตามจังหวัดภาคเหนือลงมาถึงกรุงเทพฯ บางครั้งยังเห็นบนเส้นทางภาคใต้ก็มี

ในส่วนของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน มีแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ รู้จักกันดีในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนและผู้เสพยาไอซ์ คนในวงการและนักเล่นยาจะเกรงกลัวอิทธิพลอย่างมาก

“เปรี้ยว ปรียานุช” ถือเป็นหนึ่งในแขนขาของแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ สามีเป็นผู้ค้ายาเสพติด ถูกจับกุมในปี 2559 พร้อมกับผู้ต้องหาอีกหลายราย

และเมื่อทราบว่า “น้องแอ๋ม วริศนา” เป็นสายให้กับตำรวจ นำข้อมูลของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติและขบวนการค้ายาเสพติดใน จ.ขอนแก่น ไปแจ้ง

กลุ่มนายทุนและเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด จึงไม่พอใจและมีคำสั่งตรงมาถึง “เปรี้ยว ปรียานุช” ซึ่งเป็นผู้วางแผนก่อเหตุทุกขั้นตอน

เขาว่ากันว่า “เปรี้ยว” มือสังหาร “น้องแอ๋ม” ฝากตัวรับใช้ “ว้าแดง” เครือข่ายยาเสพติดยักษ์

การหายตัวไปของสามสาว “เปรี้ยว – เอิร์น – แจ้ง” คงไม่ต่างไปจาก “นายสุรชัย เงินทองฟู หรือ บังรอน” อาชญากรค้ายานรกรายใหญ่ ก่อเหตุชักปืนยิงใส่ตำรวจที่ตั้งด่านเมื่อปี 2541 แล้วคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย

บังรอนไปอาศัยอยู่กับ “เว่ย เซียะ อิง” น้องชายของ “เว่ย เซียะ กัง” ราชายาเสพติดชาวว้าแดง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังต้องการตัวไปลงโทษ และถูกตั้งค่าหัวแพงที่สุดถึง 1 ล้านบาท

แม้จะมีความเป็นไปได้ที่ 3 สาวแก๊งฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มจะอยู่ในชะตากรรมของกลุ่มว้าแดง แต่ใครจะเชื่อว่า การเข้าไปอยู่อาศัยในกลุ่มว้าแดง จะมีชีวิตสุขสบายหรือไม่

เพราะชนกลุ่มน้อยที่ตั้งหน้าตั้งตาผลิตยาเสพติดอย่างเอาเป็นเอาตาย อยู่ในธุรกิจสีดำสนิท อยู่ในสภาวะไร้รัฐ ไร้ขื่อแป หากทั้ง 3 สาวหมดประโยชน์ กลายเป็นภาระให้กับกลุ่มว้าแดง ที่นานาชาติจับตามองอยู่

แน่นอนสุดท้ายชีวิตพวกเขาต้องเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่ กาลเวลาจะพิสูจน์ ขึ้นอยู่กับว่าจะออกแบบแบบไหน ชื่อชีวิตจะถูกลบทิ้งที่ต่างแดน เพราะที่แน่ๆๆ ทั้งหมดจะไม่มีโอกาสได้กลับสู่ออกอกประเทศไทยบ้านเกิดแน่ นอกเสียจาก  ฝ่ายพม่าจะจับตัวส่งทางการไทย ถ้าเป็นเช่นนั้น ถือว่าชตาชีวิตของคนเหล่านั้นยังโชคดี แต่ที่ค่อนข้างจะแน่ชัด คนเหล่านี้จะสูญหายไปจากโลกนี้ โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย แล้วข้อหาที่ฆ่าหั่นศพ จะติดตัวไปจนภพหน้า ทั้งๆๆที่บุคลเหล่านี้มิได้ทำ เป็นแค่ตัวลครประกอบเรื่อง ฆาตกรรมหั่นศพ เท่านั้น……!!!!!!!!!!!!!!!!!

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.