ราชกิจจานุเบกษา เผย ประกาศสํานักนายกฯ มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯถอดยศทหาร – เรียกคืนเครื่องราชฯ ทหารชั้นสัญญาบัตร 7 ราย
(30 มี.ค.60)
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดนายทหาร สัญญาบัตรออกจากยศทหาร ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๐๑ ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดํารงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๐๗ ข้อ ๒ และ ข้อ ๔ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ พระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ ๖ ข้อ ๗ (๒) และ (๔) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ จํานวน ๔ ราย ดังนี้
๑. พันโท โอติมหลอด เบียดนอก สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
๒. พันตรี ชัยนันท์ พยุงธรรม สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
๓. นาวาอากาศเอก พงษ์ณเรศ กฤษศิริไพบูรณ์ สังกัดกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกในความผิดฐานฉ้อโกง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
๔. เรืออากาศโท เสรี กอแก้ว สังกัดกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกในความผิดฐานทําร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญจักรมาลา และเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๒
นอกจากนี้ ราชกิจจานุเบกษา ยังเผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ระบุว่า มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดนายทหาร สัญญาบัตรออกจากยศทหาร ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๐๑ ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดํารงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๐๗ ข้อ ๒ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ พระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ ๖ ข้อ ๗ (๒) และ (๔) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ จํานวน ๒ ราย ดังนี้
๑. พันโทหญิง ศิริโสภา จันทรุกขา สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
๒. นาวาเอก เทวราช มังกร สังกัดกองทัพเรือ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุด ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น หรือย้ายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และฐานให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วย ประการใดๆ ซึ่งคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย
วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษายังเผยแพร่ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดยศทหาร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ถอด ร้อยตรี นราธิป ขันหาญศึก สังกัดกองทัพบก ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากหนีราชการทหารในเวลาประจําการ ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๐๑ ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดํารงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๐๗ ข้อ ๒ ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี