สอบร้านอาหารหรูติดริมห้วยหลวง
ร้านอาหารหรูริมห้วยหลวง ใช้ที่ดิน สปก. ผิดวัตถุประสงค์ รองผู้ว่าฯ อุดรธานี สั่งหยุดสร้าง เพิกถอนสิทธิ์ยึดคืนพื้นที่
1 มี.ค. 60 เมื่อเวลา 12.00 น. นายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย นายพงษ์พันธุ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอเพ็ญ ปฏิรูปที่ดิน (สปก.) จ.อุดรธานี ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) จ.อุดรธานี ตัวแทนชลประทาน จ.อุดรธานี นายก อบต.เตาไห อ.เพ็ญ ตร.สภ.เพ็ญ และหน่วยทหารจาก ร.13 พัน 2 ร่วมเดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริง ร้านอาหาร “เวียงชัยบุรี”เลขที่ 130 ตรงข้ามตลาดปลาสินเจริญ ถ.สุมเส้า – บ้านดุง ม.6 บ.สินเจริญ ต.เตาไห อ.เพ็ญ หลังมีผู้ร้องเรียนว่า ที่ร้านอาหารดังกล่าวปลูกสร้างอาคารรุกลำห้วยหลวง และใช้ที่ดิน สปก.ผิดวัตถุประสงค์
โดยก่อนลงพื้นที่ได้ร่วมประชุมรับรายงานจากหน่วยงานรับผิดชอบที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.เพ็ญ ระบุว่า ที่ดินของร้านอาหารตั้งอยู่ในที่ดิน สปก.4-01 เนื้อที่ 12-3-26 ไร่ มีชื่อนางมะลิวัลย์ หรือ “แม่ตื้อ” โพนหลวง อยู่ที่ 52 ม.6 บ.สินเจริญ ต.เตาไห อ.เพ็ญ เป็นเจ้าของที่ดิน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 ด้านทิศตะวันตกติดกับถนนสุมเส้า-บ้านดุง ด้านทิศใต้ติดกับลำห้วยหลวง องค์การบริหารส่วนตำบลเตาไห ได้รับแจ้งว่า ได้เปิดเป็นร้านอาหาร แต่ยังไม่มีการยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
นายสิธิชัย พร้อมคณะเดินทางไปยังร้านอาหาร “เวียงชัยบุรี” ได้พบกับ นายภิญญา หรือ ต๋อง สุวรรณจักร อายุ 47 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของและผู้ดูแล นำคณะดูพื้นที่ภายในที่ถูกปรับมีถนนโดยรอบ ลานจอดรถ อาคารร้านอาหาร ห้องครัว บ้านพัก และอาคารประกอบ รูปแบบ “ปั้นหยา” 3 – 5 ชั้น มากกว่า 10 หลัง เชื่อมกันโดยทางเดินสะพานไม้ ปลูกต้นไม้ตลอด 2 ข้างทางเดิน และริมลำห้วยหลวงกำลังก่อสร้าง อาคารขนาดใหญ่อีก 3 หลัง ที่ถูกระบุว่า บางส่วนล้ำลงไปในลำห้วย ขณะบริเวณพื้นที่ว่างภายใน ถูกปรับเป็นแปลงนาข้าวปลูกกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
นายภิญญา ชี้แจงว่า เป็นชาว อ.เพ็ญ เกิดและโตที่อุดรธานี แต่ไปทำธุรกิจที่เชียงใหม่ ประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์ อยากนำประสบการณ์มาทำที่บ้าน จนมาเห็นบริเวณริมห้วยหลวง น่าจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ จึงชักชวนลูกหลานของเจ้าของที่ดินที่ปล่อยทิ้งร้างไว้ไม่ใช้ประโยชน์ ไม่ได้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยไม่ได้หวังจะสร้างผลกำไร แต่อยากจะให้เป็นจุดบริการ เพื่อเกิดการท่องเที่ยวตามลำน้ำที่ยังมีความสมบูรณ์สวยงาม คงสภาพวิถีชีวิตอยู่กับน้ำ จะทำให้เกิดการสร้างงานมากขึ้น
นายสิธิชัย เปิดเผยว่า ผวจ.อุดรธานี มอบหมายให้มาตรวจสอบพร้อมคณะ ซึ่งพบว่าที่ดินผืนนี้และใกล้เคียงเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ผู้ที่เข้ามาลงทุนได้ร่วมกับลูกหลานเจ้าของที่ดิน จึงแจ้งและชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย โดยเขาเองก็ชี้แจงเหตุผลที่น่าสนใจ แต่ก็ยังติดเรื่องความถูกต้อง โดยเฉพาะใช้พื้นที่ สปก.ผิดวัตถุประสงค์ เบื้องต้น ได้มีคำสั่งด้วยวาจา ให้ระงับการก่อสร้างและกิจกรรมทั้งหมดก่อน เพื่อให้มีการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งต่อไปอาจจะมีคำสั่งรื้อถอน
“ส่วนขั้นตอนต่อไป สปก. จะต้องทำการเพิกถอนสิทธิ์เจ้าของที่ดินเดิมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มานานให้กลับคืนมาเป็นพื้นที่ของ สปก. แล้วจะนำไปจัดสรรให้กับผู้มีสิทธิ์ แต่เนื่องจากบริเวณนี้ยังมีสภาพสมบูรณ์ มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อาจจะไม่ใช่เพียงการเกษตรเท่านั้น อาจจะเป็นท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชิงนิเวศน์ เชิงวัฒนธรรม แต่จะให้สิทธิ์ใครมาดูแล อาจจะเป็นอำเภอ , อบต. หรือ สหกรณ์ โดยทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากพบว่าที่ใดที่ทำผิดวัตถุประสงค์ของ สปก. ก็ต้องดำเนินการยึดคืนอยู่แล้ว ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี”
ได้ขอสัมภาษณ์นายภิญญา แต่ปฏิเสธไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์