“นายธัญญา เนติธรรมกุล” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมประชุมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม(ทส.) และนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวฯ เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้มีการหารือถึงเรื่องการจัดการขยะ น้ำเสีย ในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ว่าจะร่วมมือจัดการให้ดีขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งเรืองมัคคุเทศก์ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่จะมาอบรมกับกทส. เรื่องการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานฯ นอกจากนี้ก็จะร่วมมือกันเกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเคาเตอร์เซอร์วิสล่วงหน้าด้วย
นายธัญญา กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือกันเรื่องแหล่งท่องเที่ยวแนวแนวโลดโผน (Zipline) หรือการโหนสลิงจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งเหมือนทาร์ซาน ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งหลายครั้งก่อให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บขึ้น โดยกรมอุททยานฯ จะไม่ยอมให้มีกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่อุทยานฯ เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด ล่าสุดตนได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทอีเกิ้ล แทรค ซิปไลน์ ที่เข้าไปทำกิจกรรมผาดโผนในพื้นที่อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย บริเวณบ้านปางอีกา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ นอกจากนี้ยังมีอีกบริษัทหนึ่งซึ่งเช้าไปดำเนินกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่เดิมเป็นพื้นที่อุทยานฯ แต่ได้กันพื้นที่ออกให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่แล้ว ซึ่งสวนสัตว์ก็ต้องไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่าในการประชุมดังกล่าวได้มีการหารือกันเรื่องการนำข้อห้องน้ำแบบทันสมัยไปติดตั้งในอุทยานฯ ต่างๆ ทั่วประเทศด้วยหรือไม่ นายธัญญา กล่าวว่า ได้มีการหารือกัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้นำเสนอให้มีการใช้ห้องสุขาที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด มาตั้งในพื้นที่อุทยานฯ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เหมือนกับที่มีการนำไปติดตั้งในพื้นที่มรดกโลก จ.พระนครศรีอยุธยา เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พัทยา จ.ชลบุรี และที่ จ.ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยจะเก็บค่าบริการครั้งละ 10 บาท ตนได้แจ้งกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่ากรมอุทยานฯ คงอนุญาตให้มีการติดตั้งห้องน้ำในพื้นที่ของกรมอุทยานฯ ไม่ได้ เพราะอุทยานฯ ทั่วประเทศ กรมอุทยานฯ ใช้เงินรายได้มาดูแลให้บริการนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเข้าชมความสวยงามของอุทยานฯ และเป็นการให้บริการฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะนักท่องเที่ยวเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานฯ ตามปกติอยู่แล้ว ถ้ามีการนำห้องสุขาดังกล่าวมาติดตั้งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เพราะต้องเสียทั้งค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ และค่าใช้บริการห้องน้ำอีก
นายธัญญา กล่าวว่า นอกจากนี้กฎหมายอุทยานฯ ก็ไม่อนุญาตให้เอกชนเข้ามาดำเนินการอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตามอาจจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งห้องน้ำในลักษณะของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ อาจจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่ต้องการให้มีห้องน้ำที่มีระบบติดเครื่องปรับอากาศ และสะดวกสบาย จากนี้กรมอุทยานฯ จะทำหนังสือถึงนายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ รักษาการปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ถึงจุดยืนของกรมอุทยานฯ ในกรณีดังกล่าวเพื่อส่งไปยัง รมว.ทรัพยากรต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจห้องน้ำเอกชนเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อให้นำเสนอข้อดีของการใช้ห้องน้ำดังกล่าวเพื่อต้องการสร้างมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และท่องเที่ยวทั่วไปด้วย
