เหตุเกิดเวลา 02.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน “ร.ต.อ.ธีรพล หงษ์ศรี” รองสว.(สอบสวน)สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายเสียชีวิตระหว่างเข้าจับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 181 ชุมชนรุ่งเรืองตอนปลาย ซอย 2 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซอยรุ่งเรือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในชุมชนลักษณะเป็นชุมชนแออัด บริเวณทางเดินพื้นปูนหน้าบ้านเลขที่ 181 เปิดเป็นร้านขายของชำ พบศพนายดอน แดงจันติ๊บ อายุ 34 ปี สภาพนอนหงายสวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีดำ มีบาดแผลปูดบวมและรอยขีดข่วนตามใบหน้า ตาซ้ายช้ำมีเลือดคั่งในลูกตา และตามร่างกายมีบาดแผลฟกช้ำ
จากการสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ขณะเกิดเหตุ นั่งดื่มเบียร์และเล่นไฮโลกันอยู่ 4-5 คน จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 6-7 คนเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนของสน.สุทธิสาร ในกลุ่มนั้นตนรู้จัก และได้ยินชื่อเรียกตำรวจนายหนึ่งว่าจ่า เข้ามาจับกุมด้วยความตกใจนายดอนจึงวิ่งหนีเข้าไปในร้านแต่เจ้าหน้าที่จึงตามเข้าไปทุบตีและจับตัวออกมาได้ แต่นายดอน พยายามหลบหนีอีกโดยเหวี่ยงหมัดไปโดนหน้าของตำรวจนายหนึ่งเข้าตำรวจนายอื่นๆ จึงรุมทำร้ายนานดอนผลักหัวไปโขกกับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ แล้วรุมทำร้ายซ้ำ ก่อนจะที่ร่างนายดอนกระเด็นไปชนกำแพงสังกะสีอย่างแรง จากนั้นจึงถูกเหยียบบนลำตัว แขนขาเพื่อไม่ให้นายดอน ดิ้นไปไหนได้ พวกตนพยายามตะโกนบอกว่าแค่คดีเล่นไฮโล ต้องทำขนาดนี้เลยหรือ ตำรวจจึงยอมปล่อยตัวแต่ผู้เสียชีวิตมีอาการสะอึกคล้ายหายใจไม่ออก ตำรวจคิดว่าแกล้งจึงพยายามจะใส่กุญแจมือ พวกตนจึงเอายาหม่องให้ดม แต่นายดอนยังไม่ได้สติ จึงเรียกหน่วยกู้ชีพมาช่วยปฐมพยาบาลโดยการปั๊มหัวใจกว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผล นายดอนเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นกลุ่มตำรวจจึงค่อยๆแยกย้ายไป
ด้านน.ส.พัทยาภรณ์ ดงพร้อม อายุ 25 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นคนขับรถให้เจ้านายชาวญี่ปุ่นของบริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุตนได้พาลูกชายวัย2ขวบเข้านอน ส่วนผู้เสียชีวิตนั่งอยู่กับเพื่อน ยังไม่เข้าบ้าน ไม่นานนักก็มีคนวิ่งไปตามว่าสามีเสียชีวิตแล้ว สำหรับสามีตนนั้นเป็นกำลังหลักของบ้าน เป็นคนร่างท้วม ไม่เคยเข้ารับการรักษาที่รพ. มาก่อนจึงไม่แน่ใจว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ค่อนข้างชัดเจน ทั้งนี้ต้องทำการตรวจสอบกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจจริงเหตุใดต้องทำร้ายจนถึงแก่ความตาย เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรที่รพ.เพื่อดำเนินการต่อไป
