วันที่ 8 ส.ค.เวลา05.00น. นักกีฬาไทย สินธุ์เพชร กรวยทอง นักยกน้ำหนัก โอลิมปิกเกมส์ รุ่น 56 ก.ก.ชาย เข้าชิงเหรียญ โดยบรรยากาศที่บ้านเกิด เลขที่ 291 หมู่ 10 บ้านโพนม่วง คุ้มโนนระเวียงสามัคคี ต.ไพรขลา ต.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ นายทองดำ กรวยทอง อายุ 56 ปี นางจันทร์ กรวยทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของ สินธุ์เพชร กรวยทอง พร้อมด้วยญาติและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเกือบ 100 คน ต่างมาเฝ้าลุ้นและส่งกำลังใจเชียร์กันอย่างคึกคัก
ตลอดการแข่งขัน โดยมีการนำกล้วย 2 เครือมาแขวนใต้ถุนบ้านใกล้กับที่ นั่งเชียร์ เพื่อเป็นเคล็ด เชื่อว่าจะทำให้การยกน้ำหนักเป็นเรื่องกล้วยๆและได้รับชัยชนะ และผู้ที่มาเชียร์ยังพากันเด็ดกินกล้วยกันอย่างเอร็ดอร่อยเป็นอาหารบำรุงไปด้วยอีกทางหนึ่ง
ทันทีที่นักกีฬาทีมชาติไทย รวมถึง สินธุ์เพชร กรวยทอง ทำการแข่งขันเพื่อลุ้นเหรียญ บรรดาญาติและผู้ที่มาร่วมเชียร์ ได้ส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคัก ในขณะที่นางจันทร์ กรวยทอง แม่ของสินธุ์เพชร ได้ทำการเซ่นไหว้บอกกล่าวศาลพระภูมิหน้าบ้าน เพื่อให้ช่วยสินธุ์เพรช ประสบผลสำเร็จ
ได้รับเหรียญ และเมื่อรู้ผลทุกคนต่างดีใจกันอย่างยิ่งส่งเสียงเชียร์สนั่น โดยเฉพาะนางจันทร์ ผู้เป็นแม่ แทบเป็นลม ทุกคนต่างช่วยกันประคองและให้ กำลังใจ จนอาการดีขึ้น
แต่ในช่วงของการแข่งขันในท่าแรกท่าสเน็ก ทุกคนต่างลุ้นและเชียร์อยู่นั้น อยู่ “คุณยายสุบิน คงทัพ”
อายุ 82 ปี คุณยายของสินธุ์เพชร หรือ เจ้าดุ่ย ซึ่งเป็นคุณยายที่เลี้ยงมาตั้ งแต่เล็กเกิดเป็นลมหมดสติไป ญาติๆและชาวบ้านที่มาร่วมเชียร์ ต่างตกใจและช่วยกันปั๊มหัวใจ จนคุณยายฟื้นขึ้นมา ญาติรีบหามนำส่งโรงพยาบาลอำเภอชุมพลบุรี แต่ต่อมาประมาณ 1 ชั่วโมง
ญาติมาแจ้งว่าคุณยายเสียชีวิตแล้ว ทำให้บรรยากาศของการเชียร์หยุดชะงักไปพักหนึ่ง ด้วยความเศร้าเสียใจ เมื่อทุกคนตั้งสติได้ ก็ได้ร่วมใจกันเชียร์สินธุ์เพชร หรือเจ้าดุ่ย กันอย่างคึกคักจนถึงท่าสุดท้ายของการแข่งขันและได้รับเหรียญทองแดง ต่างแสดงความดีใจกับแม่และพ่อ ร่วมถึงญาติๆ ของเจ้าดุ่ย
นางจันทร์ กรวยทอง แม่สินธุ์เพชร หรือเจ้าดุ่ย เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่ลูกได้รับเหรียญในครั้งนี้ และขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังให้กับเจ้าดุ่ย และสนับสนุนจนประสพผลสำเร็จ สิ่งที่อยากได้จากส่วนราชการคื อถนนเข้าหมู่บ้านที่ยังไม่สะดวก ที่ผ่านมาไม่ได้บนบานอะไรมากมาย เพียงแต่จะเซ่นไหว้ไก่ และหมูศาลปู่ตาและเจ้าที่เจ้ าทางเจ้าบ้านเจ้าเรือนเท่านั้น และเมื่อเจ้าดุ่ยกลับมาจะไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อกลับมาบ้านจะทำอาหารที่ลูกชอบทุกอย่างให้กิน โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูที่เจ้าดุ่ยชอบเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามหลังจากจบการแข่งขัน บรรยากาศที่บ้านก็ยังคงมีผู้คนมาแสดงความยินดี ขณะที่ทางบ้านได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องไว้เตรียมต้อนรับ แม้ว่ายายจะเสียชีวิตลงก็ ตามญาติๆมีทั้งดีใจและเสียใจ โดยศพของคุณยายจะตั้งบำเพ็ญที่ บ้านโพนม่วง ตำบลไพรขลา อำเภอชุพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ต่อไป ซึ่งยังความเศร้าสลดต่อ “สินธุ์เพชร”เป็นอย่างยิ่ง
