20 ก.ค.59 “พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวการตัดไม้สักในพื้นที่สวนป่าแม่หอพระ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่อนำไปก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า จะไม่มีการดำเนินการใดๆ กับต้นสักในบริเวณดังกล่าวทั้งสิ้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำสวนป่ากลับคืนมาเป็นพื้นที่ป่าสงวน และให้กำหนดมาตรการดูแลรักษาอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้คงสภาพป่าที่สมบูรณ์ต่อไป
ตามข่าวที่ปรากฏตาม”สื่อออนไลน์”ที่ว่ามี “ผู้ใหญ่สั่งลงมา” นั้น คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะไม่มีผู้ใหญ่คนใดทำเช่นนั้น รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการเพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับประเทศชาติ และเข้าใจความรู้สึกของคนในท้องถิ่นดีว่า มีความรักและหวงแหนผืนป่ามากเท่าใด และพร้อมที่จะช่วยกันดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ให้เป็นป่าของชุมชน
“พล.ต.สรรเสริญ” กล่าวต่อถึงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า บริษัทผู้รับเหมามีความต้องการไม้สักขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว จึงได้ติดต่อขอซื้อจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ซึ่งเป็นเรื่องทางธุรกิจปกติ โดย ออป.ได้สำรวจสวนป่าทั่วประเทศ และพบต้นสัก 2,000 ต้น ที่มีขนาดเหมาะสม อยู่ในพื้นที่สวนป่าแม่หอพระ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง ที่ทาง ออป.ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ เพื่อปลูกสร้างสวนป่าสัก โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตัดไม้แต่อย่างใด
“ใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ของ ออป.หมดอายุลงตั้งแต่ 24 ก.ค.58 และขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตใหม่ โดยการขออนุญาตจะต้องได้ความยินยอมจากคนในท้องถิ่นก่อน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้อนุรักษ์ไม้สักไว้ นายกฯ จึงได้มอบหมายให้ ทส.ไปดำเนินการในรายละเอียด เพื่อให้สวนป่าแม่หอพระกลับไปเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งต่อไปกรมป่าไม้จะสามารถอนุญาตให้ชุมชนใช้ประโยชน์ได้ รวมทั้งให้ดูแลเรื่องเงินชดเชยแก่ ออป.ตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ หากไม่อนุญาตให้ต่อสัญญา” พล.ต.สรรเสริญ กล่าวสรุป