เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 เว็บไซต์ adweek ได้รายงานผลการสำรวจสถิติการใช้งานปุ่ม Reactions ของเฟซบุ๊กที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานได้ไม่นาน ว่าจะมีคนนิยมใช้กันมากน้อยเท่าไร โดยสำรวจจากโพสต์ของเพจ 10 อันดับแบรนด์ชื่อดังได้แก่ Nissan, Mini Babybel, Bertolli, Windex, LG Mobile, Giorgio Armani Beauty, Arby’s, Rebel’s Market, Little Things.com และ US Cellular ตั้งแต่ช่วงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากผลสำรวจพบว่า โพสต์ของเพจอย่าง Nissan มียอดไลค์มากกว่า 92,000 ไลค์ แต่ระบบเฟซบุ๊กได้บันทึกเอาไว้เพียง 12,000 ไลค์เท่านั้น (เป็นปกติสำหรับยอดไลค์ที่เกิน 10,000) ซึ่งพบว่า 92.9% ของทั้งหมดเป็นการกดไลค์แบบปกติ รองลงมาเป็นการกด Love เพียง 4.6% เท่านั้น
นอกจากนี้เมื่อลองสำรวจสถิติในช่วงวันที่ 6 – 15 มีนาคมที่ผ่านมาก็พบว่าได้สถิติที่ไม่ต่างกันคือ ยอดกดไลค์แบบปกติที่นำมาเป็นอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 92.9% ตามด้วย Love เพียง 4.6% ก็เป็นอันชี้ชัดว่าถึงแม้ฟีเจอร์ Reactions จะเปิดให้ใช้งานมาสักระยะหนึ่งแล้วสถิติการใช้งานก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อวิเคราะห์แล้วคาดว่าสาเหตุผลที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนใหญ่ยังชอบกดไลค์แบบปกติกันมากกว่าที่จะใช้ Reactions ต่าง ๆ กัน อาจจะเนื่องมาจากสาเหตุหลัก ๆ 3 ประการ ได้แก่ดังนี้
– 1. การใช้ Reactions จะต้องกดค้างที่ปุ่มไลค์ก่อน ซึ่งผู้ใช้จะรู้สึกว่าไม่ถนัด กดไลค์แบบปกติสะดวกกว่า
– 2. ความเคยชินในการกดไลค์แบบปกติ ซึ่งอาจต้องเวลานานกว่านี้กว่าที่ผู้ใช้จะเริ่มทำความเคยชินกับการใช้ Reactions
– 3. อาจจะมีบางส่วนที่ผู้ใช้เผลอกดไลค์โดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างใช้นิ้วโป้งเลื่อนหน้าจอ อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูกันต่อไปว่าอนาคตในระยะยาวจะมีคนหันมาใช้ Reactions กันมากขึ้นหรือไม่
