พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน – รัสเซีย อย่างไม่เป็นทางการ ระหว่าง 25 – 28 เมษายน 2559 ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ในวาระเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ครบรอบ 20 ปี อาเซียน – รัสเซีย โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะ เข้าร่วมประชุมมีผลสรุปดังนี้
พล.อ. เซอร์เกย์ โชย์กุย ( Sergie Shoigu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีรัสเซียให้ความสำคัญในการกระชับความร่วมมือกับอาเซียน ในโอกาส ครบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – รัสเซีย โดยถือว่าอาเซียนเป็นมิตรและเพื่อนบ้านที่พร้อมจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค รัสเซียให้ความสำคัญกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย การรักษาความมั่นคงทางทะเล การแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างสันติร่วมกัน ตามหลักกฎหมายสากลและขอขอบคุณไทยที่ร่วมมือกันดำเนินงานจัดตั้งศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนขึ้น ทั้งนี้รัสเซียพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านต่างๆ ให้กับประเทศสมาชิกอาเซียน ผ่านทางคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญที่รัสเซียเป็นประธานร่วม
ในโอกาสนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงท่าทีของไทยในที่ประชุมโดยสรุปว่า พัฒนาการและบทบาทของอาเซียน – รัสเซีย ที่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประชาคมความมั่นคงอาเซียนให้มีดุลยภาพในภูมิภาค อาเซียนและรัสเซียจำเป็นต้องร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับภูมิภาคต่อไป ร่วมกันส่งเสริมพัฒนาโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะนำไปสู่ศักยภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ประเทศไทยสนับสนุนแนวคิดการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับรัสเซีย พร้อมทั้งให้ความสำคัญและสนับสนุนความร่วมมืออย่างจริงจังในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงของภูมิภาคโดยสันติวิธีและสอดคล้องกับกฏหมายระหว่างประเทศ โดยทุกฝ่ายควรมีความยับยั้งชั่งใจและใช้กระบวนการเจรจาอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานการไว้เนื้อเชื่อใจและการมีผลประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ไทยยังสนับสนุนการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างฝ่ายทหารของอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เพื่อสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคง รวมทั้งขยายความร่วมมือกับหน่วยงานพลเรือนและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคร่วมกัน พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนรัสเซียและประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมสนับสนุนการดำเนินการต่างๆในการทดสอบศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน จากการฝึกร่วมในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ที่จะจัดขึ้น ก.ย.59 ในไทย และกล่าวถึงความพร้อมของไทยในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงประเทศต่างๆในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาคในทุกมิติ
ซึ่งที่ประชุมเห็นร่วมกันโดยสรุปว่า ภัยคุกคามรูปแบบเดิมยังคงมีอยู่และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจากภาวะโลกร้อนมีความรุนแรงขึ้น และมีความจำเป็นที่สมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาต้องร่วมมือกันมากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการบรรเทาภัยพิบัติและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สมาชิกอาเซียนขอขอบคุณบทบาทที่สร้างสรรค์ของรัสเซียที่ผ่านมาและเห็นถึงความจำเป็นที่รัสเซียต้องคงบทบาทที่สร้างสรรค์ต่อไป เพื่อความสงบสุขของภูมิภาค ทั้งนี้ รมว.กห.พม่าได้กล่าวให้ข้อคิดที่น่าสนใจถึงประสบการณ์จากสถานการณ์ภายในประเทศที่ผ่านมาว่า ความขัดแย้งที่มีภายในประเทศจะขยายเป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่ หากยังคงขยายเชื้อจากภายในโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและมีการแทรกแซงจากภายนอกประเทศ ซึ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการใช้กำลังและความรุนแรงที่ผ่านมา จะยังความเสียใจมาให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้ จึงจำเป็นที่ประชาชนในชาติต้องเรียนรู้ร่วมกันและไม่ให้เกิดขึ้นอีก
หลังจากนั้น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เข้าร่วมประชุมนานาชาติมอสโกว่า ด้วยความมั่นคง ครั้งที่ 5 ( Moscow International Security Conference ) ซึ่งรัสเซียจัดขึ้นและเชิญประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุมกว่า 50 ประเทศ โดยได้หารือร่วมกันถึงปัญหาความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่และปัญหาการก่อการร้ายซึ่งเป็นภัยคุกคามหลักระหว่างประเทศ โอกาสความร่วมมือและกลไกการรักษาความมั่นคงรูปแบบใหม่ในภูมิภาคยุโรป เพื่อแก้ปัญหาสงครามและเสริมสร้างสันติภาพรวมทั้งแนวทางความร่วมมือกันด้านต่างๆ ต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงของภูมิภาค
ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าพบและหารือทวิภาคีกับ พล.อ. Sergei Shoigu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โดยได้หารือสานต่อความร่วมมือและพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการทหารที่ผ่านมาในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การจัดตั้งกลไกแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การริเริ่มความร่วมมือด้านการฝึกต่างๆ การแลกเปลี่ยนการศึกษาดูงาน ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และการขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนที่รัสเซียให้การสนับสนุนจัดตั้ง สำหรับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนั้น ไทยก็มีความสนใจในยุทโธปกรณ์ทางทหารของรัสเซียเพื่อการบรรเทาสาธารณภัยและการพัฒนาประเทศ พร้อมกับเชิญชวนและเสนอให้รัสเซียเข้ามาลงทุนจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศหรือศูนย์ซ่อมอากาศยานในไทย ซึ่งรัสเซียพร้อมให้การสนับสนุน และจะได้จัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร ให้มีการลงนามร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าพัฒนาการการทำงานร่วมกันที่แน่นแฟ้น จะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือในกรอบทวิภาคีของทั้งสองประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นต่อไป