พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมของคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
เกี่ยวกับการประมวลกฎหมายของศาล โดยมีศาลยุติธรรม เป็นผู้เสนอในที่ประชุม ว่า ในปัจจุบันขั้นตอนของศาล ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ซึ่งมีความล่าช้าและไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยได้พบข้อบกพร่องว่า คดีที่เข้ามาในศาลฎีกา มีจำนวนมาก แต่ผู้พิพากษาน้อย จึงต้องใช้เวลานานศาลยุติธรรม จึงเห็นว่า ให้คดีอาญาจบแค่ในขั้นตอนของศาลอุทธรณ์ และการจะฎีกาได้นั้น ศาลจะต้องตั้งคณะขึ้นมาเพื่อพิจารณาก่อนว่าควรฎีกาหรือไม่ โดยจากการหารือในที่ประชุม หลายหน่วยงานไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าไม่ควรไปตัดขั้นตอนของกระบวนการศาล และควรจะให้ผู้เกี่ยวข้องในคดีได้ต่อสู้ทั้ง 3 ขั้นตอน ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี จึงมีมติว่าเห็นสมควรให้ศาลยุติธรรม นำกลับไปพิจารณาและรับข้อเสนอแนะจากที่ประชุมเพื่อแก้ไขหลักการต่อไป
คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย คือ 1. นายกฤชเทพ สิมลี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นายธานินทร์ สมบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทางหลวง และ 3. นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนการเงินให้ผู้ที่สนับสนุนการแพร่กระจายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ตามที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เสนอ เนื่องจากเห็นว่า ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายป้องกันในเรื่องนี้ สำหรับสาระสำคัญในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ปปง. จะมีอำนาจในการประกาศรายชื่อบุคคลตามที่คณะมนตรีสหประชาชาติ ได้ประกาศรายชื่อ ซึ่งบุคคลที่มีการประกาศรายชื่อนั้นจะไม่สามารถโอนย้าย จำหน่าย หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงินไปในที่ต่าง ๆ ได้ รวมถึง ปปง. สามารถขอข้อมูลทางการเงินของบุคคลมีรายชื่อจากสถาบันการเงินได้
