ในทุกๆ ที่ที่อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าถึงทุกคนบนโลกใบนี้ และมีบทบาทเป็นอย่างมาก เด็กๆ ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในมุมที่ผู้ใหญ่มองไม่เห็นหรืออาจไม่ทันสังเกต คำถามที่ยากมากสำหรับผู้ปกครองในปัจจุบันคือ คุณแน่ใจหรือไม่ว่าเด็กๆ ถูกเลี้ยงดูอย่างปลอดภัยและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มั่นใจได้ว่าปราศจากการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ในขณะที่เด็กถูกทิ้งให้อยู่กับอินเทอร์เน็ตคนเดียว เขาอาจพบกับความอันตรายโดยบังเอิญหรือเจอะเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จากผลการสำรวจเรื่อง “The things kids hide online” โดยแคสเปอร์สกี้ แลป และบริษัทไอคอนคิดส์แอนด์ยูธ พบว่าเด็กจำนวนกว่าครึ่ง (44%) ซ่อนการกระทำออนไลน์ที่มีความเสี่ยงภัยสูงให้พ้นจากสายตาผู้ปกครอง
ยิ่งเด็กโตเท่าไหร่ ก็จะมีเรื่องปิดบังมากขึ้นเท่านั้น เด็กที่มีอายุ 8-10 ปี จำนวนหนึ่งในสาม (33%) ไม่ได้บอกพ่อแม่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ ส่วนเด็กที่มีอายุ 14-16 ปี จำนวนจะพุ่งขึ้นสูงถึง 51% พ่อแม่ของเด็กๆ ที่เงียบขรึมส่วนมากจะเพิกเฉยต่อสิ่งที่ลูกหลานพบเจอในโลกออนไลน์ ยิ่งเป็นกิจกรรมที่อันตรายมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้ปกครองก็ยิ่งพบยากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น พ่อแม่จำนวน 56% ไม่รู้เลยว่าเด็กใช้เวลาในโลกอินเทอร์เน็ตไปเท่าใด และพ่อแม่จำนวน 70% ไม่มีความรู้เรื่องการดาวน์โหลดที่ผิดกฎหมายหรือการกลั่นแกล้งกันทางไซเบอร์เลย
เมื่อถูกห้ามเรื่องพฤติกรรมในโลกออนไลน์ เด็กๆ จะเงียบเฉย และยังหาวิธีขัดขืนคำสั่งพ่อแม่ โดยพบว่าเด็กจำนวน 30% ยอมรับว่าทำเช่นนั้น เด็กๆ จะใช้รหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่พ่อแม่ไม่รู้ และจะใช้สื่อออนไลน์เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ รวมทั้งลบประวัติการใช้งานบนโลกออนไลน์ออก เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ เด็กจำนวน 1 ใน 7 หรือ 14% จะใช้โปรแกรมพิเศษซ่อนแอพพลิเคชั่นที่พวกเขาเปิดใช้งาน
ในเวลาเดียวกัน เด็กๆ ส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่ได้ทำอะไรละเมิดซอฟแวร์ควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยผู้ปกครอง หรือ parental control software ซึ่งในความเป็นจริงพบว่าเด็กจำนวน 3 ใน 4 (75%) เห็นว่า จะมีประโยชน์มากถ้าผู้ปกครองคุยกับเด็กๆ เรื่องการคุกคามทางไซเบอร์ และนับเป็นการช่วยเหลือครั้งใหญ่สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการจะป้องกันเด็กๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
“การศึกษาของผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเด็กๆ ในโลกออนไลน์ ถ้าเด็กๆ คิดว่าพ่อแม่สามารถสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ที่ได้เจอมาโดยไม่โวยวาย เด็กๆ ก็จะไว้วางใจมากยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมผู้ปกครองจะต้องหาความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น เพิ่มทักษะความสามารถทางไซเบอร์ และสร้างความเชื่อใจกับเด็กๆ เพื่อที่จะมีส่วนร่วมในชีวิตของเด็กๆ ทั้งขณะที่ใช้สื่อออนไลน์หรือไม่ใช้ก็ตาม ผู้ปกครองต้องทำให้พวกเด็กๆ รู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พ่อแม่จะคอยรับฟัง สนับสนุนและช่วยเหลืออยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาวิจัย จากคณะกรรมาธิการยุโรปล่าสุด พบว่า บ่อยครั้งที่เด็กๆ ถามถึงการควบคุมดูแลจากผู้ปกครอง ด้วยต้องการปกป้องน้องๆ จากภัยเหล่านี้” เจนิซ ริชาร์ดสัน ที่ปรึกษาอาวุโส เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนในสหภาพยุโรป (European Schoolnet) กล่าว
“การดูแลของผู้ปกครองและการให้คำแนะนำสำหรับเด็ก ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในโลกชีวิตจริง เพราะทุกวันนี้ชีวิตของเด็กๆ ส่วนใหญ่อยู่กับสื่อออนไลน์ แต่บางครั้งที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้อยู่ดูแลเด็กๆ ด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้โซลูชั่นสำหรับควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ โดยโซลูชั่นนี้ จะเป็นเกราะป้องกันเด็กๆ จากภัยอันตรายบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นทั้งจากคอมพิวเตอร์และจากสมาร์ทโฟน และยังส่งแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองทราบเกี่ยวกับภัยต่างๆ ด้วย โดยโซลูชั่นนี้จะทำให้พ่อแม่มีโอกาสพูดคุยกับเด็กๆ เรื่องภัยคุกคามในโลกออนไลน์ได้อีกด้วย” อังเดรย์ โมโกล่า หัวหน้าฝ่ายธุรกิจผู้บริโภคของแคสเปอร์สกี้ แลป กล่าว
• หากท่านต้องการคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อป้องกันเด็กๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต ท่านสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ kids.kaspersky.com
• ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการแก้ปัญหาเข้ามาที่ Kaspersky Safe Kids
• ผลการสำรวจเรื่อง The things kids hide online https://kids.kaspersky.com/what-kids-conceal/