วันที่20 เม.ย.ที่กระทรวงยุติธรรม นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายารมว.ยุติธรรม ที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 ศูนย์ราชการอาคารเอ กรณีพระธัมมชโย ถูกดี เอสไอ.ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเรื่องฟอกเงิน-รับของโจร
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวตามกฎหมายอนุญาตให้เลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาได้ 2 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้มีการเลื่อนออกไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งทางดีเอสไอได้กำหนดนัดให้ไปรับทราบข้อหาอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.นี้ โดยทีมทนายและพระธัมมชโยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามนัดในวันที่ 25 เม.ย.นี้ หรือขอเลื่อนนัดเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทีมทนายจะประสานกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า กรณีหลวงพ่อรับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยไม่มีมูลหนี้ เรื่องนี้ตอนที่ ดีเอสไอ.ไปสอบปากคำที่วัดพระธรรมกาย หลวงพ่อก็ได้ยอมรับความจริงแล้วว่าเป็นคนรับเช็คจริง แต่ท่านไม่รู้ว่าเงินที่ได้รับบริจาคเป็นเงินผิดกฎหมาย หลวงพ่อก็หยิบเงินใส่ถุง แล้วก็นำไปเข้าบัญชีวัดธัมกายและนำเงินทั้งหมดไปก่อสร้างวัด ทุกวันนี้ท่านยังเป็นหนี้ค่าก่อสร้างหลายล้าน จึงต้องรับบริจาคไปเรื่อยๆ เงินก่อสร้างวัดส่วนใหญ่ก็เป็นเงินบริจาคทั้งนั้น แล้วท่านจะฟอกเงินอย่างไร
” มั่นใจว่าท่านบริสุทธิ์ และสุดท้ายคดีนี้ก็จะจบเพราะท่านไม่ผิด จะกล่าวหาว่าท่านรับของโจรได้อย่างไร เมื่อท่านได้รับเงินบริจาคมา ท่านก็นำไปก่อสร้างวัดและเจดีย์ รับของโจรตรงไหนเพราะไม่ได้นำเงินไปแอบซ่อนไว้ที่ไหน เรื่องผ่านมาแล้ว 4 ปี เขามาอ้างว่าไปรับของโจรและฟอกเงิน หลวงพ่อท่านจะรู้ยังไงว่ารับของๆ ใครแล้วคนนั้นจะเป็นของโจรหรือไม่ ใครบริจาคก็รับไว้หมด อย่าลืมว่านายศุภชัยไม่ได้ทำบุญเพียงวัดเดียว แล้วทำไมที่อื่นไม่มีความผิด ส่วนที่กล่าวหาว่านายศุภชัยบริจาคให้พระลูกวัดด้วยนั้นก็ไม่เป็นความจริง” นายสัมพันธ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานอย่างเป็นทางการว่าพระธัมมชโยจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่ คงต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางอีกครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนรอความชัดเจนจากทีมทนายความ ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ อีกครั้ง