รศ.ดร.จงจิตร อังคทะวานิช คณะสหเวชศาสตร์ และ น.สพ.รชฏ ตันติเลิศเจริญ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2558 โดยได้เข้ารับมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติฯ ในวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
น.สพ.รชฎ ตันติเลิศเจริญ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยความรู้สึกที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นรางวัลที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับข้าราชการพลเรือนคนหนึ่ง ขอกราบขอบพระคุณคณะกรรมการคัดเลือกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้บริหารของคณะสัตวแพทยศาสตร์ที่ได้ให้สนับสนุนและให้โอกาส ขอบพระคุณผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานทุกท่านที่ได้มีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงาน จนกระทั่งได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในครั้งนี้
การทำงานที่ผ่านมายึดหลัก “ภักดี ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ สามัคคี” อยากฝากข้อคิดในการทำงานถึงข้าราชการว่า งานทุกอย่างไม่ว่าเล็กใหญ่ ง่ายหรือยาก ล้วนมีความสำคัญ เมื่อท่านได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติ จึงต้องทำให้เต็มกำลังความสามารถ ทุกท่านไม่ว่าจะทำงานในตำแหน่งใดระดับใด เมื่อได้ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว ย่อมเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าต่อองค์กรทั้งสิ้น ขอให้กำลังใจผู้ที่ปฏิบัติงานทุกท่าน อย่าย่อท้อต่ออุปสรรค ขอให้ขยันทำเหตุที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เมื่อปัจจัยถึงพร้อม ท่านย่อมได้รับผลจากเหตุที่ดีนั้นอย่างแน่นอน
รศ.ดร.จงจิตร อังคทะวานิช คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า ตนได้รับราชการมาเป็นเวลากว่า 35 ปี ได้ผ่านประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งการรับราชการในมหาวิทยาลัยได้ให้ช่วงชีวิตที่มีคุณค่าอย่างมากมาย รางวัลข้าราชการดีเด่นที่ได้รับนั้นจึงเป็นความซาบซึ้งใจที่ได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ เป็นรางวัลแห่งกำลังใจ และเป็นเครื่องเตือนใจถึงภารกิจและความรับผิดชอบในฐานะข้าแห่งกิจการของพระราชา การคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม และการรับใช้ประชาราษฎร์อย่างมั่นคงตลอดไป
ในการทำงานที่ผ่านมา ตนมีคติคือ “ความถูกต้องมาก่อนผลประโยชน์” ยึดมั่นที่จะเป็นอาจารย์ที่ช่วยให้ศิษย์มีความรู้อย่างดีเยี่ยม มีคุณธรรม ต้องถึงพร้อมทั้งสองด้านเสมอ เมื่อทำการสอนศิษย์ก็จะพยายามสอดแทรกคุณธรรมเข้าไปในการสอนในทุกโอกาสที่จะทำได้ เช่น การสอนในเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งแม้จะให้ผลกำไรตอบแทนสูง แต่นิสิตต้องไม่ลืมคิดถึงผลต่อสุขภาพของประชาชนและไม่หลอกลวงผู้บริโภค ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ฯลฯ และ “ความรู้ คู่ ความรัก” หน้าที่ของนักโภชนาการ คือการทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี ป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ หลักการที่สอนนิสิตอยู่เสมอคือ ความรู้ต้องคู่ความรัก การดูแลผู้ป่วยต้องคิดว่า เขาเป็นเสมือนญาติ ใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย น้ำเสียงต้องมีเมตตา ไม่คิดว่าจะเอาชนะความคิดของผู้ป่วย แต่ต้องมีกลยุทธ์ค่อยชักนำ ใช้ศิลปะ โน้มน้าวด้วยความรัก ความอดทน และมีความเข้าใจ
