คลิปเสียง…แถลงข่าว
รอง ผบ.ตร. เผย แม้!! พี่สาวน้องชมพู่ให้การไม่ตรง ไม่กระทบต่อรูปคดี ย้ำทำงานต่อเนื่อง สอบปากคำพยาน 900 กว่าปาก อีก 2 – 3วัน รู้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์หลายอย่าง
กำลังเป็นคดีที่กำลังถูกจับตา จากสังคมไทยทั่วประเทศ หลังจากน้องชมพู่ วัย 3 ขวบหายตัวไป และพบร่างไร้วิญญาณอยู่บนภูเขาห่างจากบ้านไปหลายกิโล ซึ่งมีข้อขัดแย้งเรื่องข้อมูลออกมาอยู่หลายประเด็น พัวพันอยู่กับครอบครัว และคนในหมู่บ้านน้องชมพู่
วันที่(10 ก.ค. 63 ) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)
“พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ว่า ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ ทำงานอย่างต่อเนื่อง ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีประเด็นเด็กหญิง เพื่อนของพี่สาวน้องชมพู่ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อบางสำนักว่า แท้จริงแล้วพี่สาวของน้องชมพู่นอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์ ในขณะที่น้องชมพู่หายตัวไป และไม่ได้นอนหลับตามที่เคยให้ข้อมูลไว้นั้น
โดยทางตำรวจมั่นใจว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดีและแนวทางการสืบสวนสอบสวนอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่เด็กหญิงบอกเล่ากับสื่อนั้นเป็นสิทธิที่เด็กจะสามารถกระทำได้ แต่การที่สื่อไปสัมภาษณ์เด็กหญิงเพื่อนของพี่สาวน้องชมพู่นั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร
ทั้งนี้ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้มีการเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 900 กว่าปาก และในอีก 2 – 3 วัน จะได้รับรายงานผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่นดีเอ็นเอ และวัตถุพยานต่าง ๆ จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการคลี่คลายคดี
และ “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” (รองผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ที่ถูกพบศพกลางป่าในอ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ว่า จากพยานหลักฐานที่มีขณะนี้ยังไม่สามารถออกหมายจับ หรือ ระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ แม้ว่าสังคมจะมีการสงสัยพ่อแม่หรือลุงของน้องชมพู่ก็ตาม แต่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงไม่ตามกระแสสังคม ยอมรับว่าคดีมีความคืบหน้า 80 เปอร์เซ็นต์ แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีน้อยมาก ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนสาเหตุการชีวิตของน้องชมพู่ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ แพทย์นิติเวชก็ยังสรุปไม่ได้ บางทีรายงานข่าวของสื่อที่หลุดออกไป ตนก็ตั้งข้อสังเกตว่าหลุดไปได้อย่างไร ทั้งที่รายละเอียดการนำเสนอก็ไม่ใช่ความจริง อย่าเพิ่งไปสรุปหรือฟันธง
ส่วนกรณีที่เด็กหญิงซึ่งเพื่อนของพี่สาวน้องชมพู่ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบางสำนักว่า แท้จริงแล้วพี่สาวของน้องชมพู่นอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์ ในขณะที่น้องชมพู่หายตัวไป และไม่ได้นอนหลับตามที่เคยให้ข้อมูลไว้นั้น รองผบ.ตร. กล่าวว่า ทางตำรวจมั่นใจว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดีและแนวทางการสืบสวนสอบสวนอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่เด็กหญิงบอกเล่ากับสื่อนั้นเป็นสิทธิที่เด็กจะสามารถกระทำได้ แต่การที่สื่อไปสัมภาษณ์เด็กหญิงเพื่อนของพี่สาวน้องชมพู่นั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร
เมื่อทาง”ผู้สื่อข่าว”ถามว่าคดีนี้จะมีโอกาสได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะบอกแบบนั้น ตำรวจทำให้ดีที่สุดแล้ว มีรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วน ไม่ได้หาหลักฐานเพียงแค่ออกหมายจับ แต่จะต้องมีหลักฐานจนนำสู่การดำเนินคดีในชั้นศาลได้
ขณะที่”พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนในพื้นที่ ทำให้การทำงานของตำรวจยุ่งยากมากขึ้น ส่วนความขัดแย้งของบรรดาญาตินั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการนำเสนอข่าว ส่วนจะให้สื่อปรับปรุงหรือแก้ไขการทำงานอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ
ทางด้าน “พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ” รองโฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้ตำรวจได้มีการเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 900 ปาก และในอีก 2-3 วัน จะได้รับรายงานผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ ดีเอ็นเอ และวัตถุพยานต่างๆ จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการคลี่คลายคดี
*************************************************
#หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย”#ข่าวทั่วไทย-ไกลทั่วโลก#
เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ผดุงความธรรมในสังคม
#เปิดอ่านทาง WEBSITE: https://www.thailandworldnews.com
หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย##นายสิทธิชัย ไชยกิจ (ชัย บางสะแก) เจ้าของ-บรรณาธิการ #
#ติดต่อกองบรรณาธิการ #……#ประสงค์ ส่งข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์ร้องขอความเป็นธรรม”เครือข่ายบุติธรรม”
ส่งเรื่องต่างๆมาที่อีเมล : THAILANDWORLDNEWS@GMAIL.COM
เพื่อความเป็นธรรมในสังคม
************************************************