สามารถ ไอ – โมบายเปิดตัวโครงสร้างธุรกิจใหม่ แยกสายงานเป็นกลุ่มมือถือ (Mobile) และไม่ใช่มือถือ (Non Mobile) เน้นธุรกิจงานบริการมากขึ้น รวมไปถึงการทำการค้า (Trading) ในสินค้าแนวใหม่ที่เป็น Life Style คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายมือถือและงานบริการ 80:20 โดยตั้งเป้าจะขยายไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย พร้อมจับมือกับคู่ค้าธุรกิจที่อยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ
นาย
จักรกฤช จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สามารถ ไอ – โมบาย เปิดเผยว่า “บริษัท สามารถ ไอ – โมบาย จำกัด (มหาชน) เปิดดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นหนึ่งในสายธุรกิจการสื่อสารข้อมูลและอุปกรณ์สื่อสารไอที (Mobile Multimedia) ซึ่งที่ผ่านมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ให้กลุ่มสามารถมาโดยตลอด และเพื่อรับมือกับการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้น ผนวกกับแนวทางเทคโนโลยีที่เข้าสู่ยุค Internet of Things อย่างแท้จริง บริษัทฯ ได้เล็งเห็นโอกาส จึงปรับทิศทางตลอดจนโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัทฯ ในการก้าวสู่จุดหมายที่ใหญ่และยั่งยืนยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “Open” ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งต่อยอดจากธุรกิจเดิม เน้นการสร้างรายได้ประจำด้วยการรุกธุรกิจค้าปลีกในชื่อ “Open Shop” ร้านไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งมือถือ Gadget และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระบบเครือข่าย เพื่อการสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆที่ติดตัวไปได้ทุกที่ภายใต้แบรนด์ “O’Life” ซึ่งนอกจากจะสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัยแล้ว ในร้านยังมีบริการอื่นๆที่ตรงใจผู้บริโภค อาทิ “O’Fix” ศูนย์ซ่อมมือถือสารพัดแบรนด์ “O’Pay” ศูนย์รับชำระบิลทุกประเภท “O’Top UP” ตู้เติมเงินที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น และ “O’ Cafe” พร้อมบริการกาแฟและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และยังมีสินค้า “O’Sport & Health and Smart Home” อีกด้วย
บริษัทฯ ตั้งเป้าทยอยปรับเปลี่ยนร้านไอ – โมบายเดิม จำนวน 28 สาขา เป็นร้าน Open Shop รูปแบบใหม่ ภายในสิ้นปี 2559 นี้ พร้อมรุกขยายไปในทุกจังหวัด เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้ให้บริการได้รวดเร็วครอบคลุม ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้วาง Roadmap ในการขยายร้านไว้ทั้งในลักษณะ COCO (Company Own Company Operate) และขาย Franchise ในรูปแบบร้านใหม่ไปด้วย นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจ MVNO ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในการสร้างรายได้ประจำ บริษัทฯเตรียมที่จะเปิดตัว Open MVNO ที่ให้บริการบนเครือข่ายของ CAT โดยจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้
สำหรับด้านธุรกิจบริการ บริษัท ฯ ได้มีการขยายภาคธุรกิจจากเดิมสามารถมัลติมีเดีย ที่ให้บริการแต่ส่วนข้อมูล (Content Business) ในชื่อ BUG, EDT, i – Sport นั้น ในปีนี้ได้เพิ่มธุรกิจขึ้นอีก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจ”E-commerce” โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป เช่น Thailandmall เจาะกลุ่มค้าส่งต่างชาติ WappWapp เจาะกลุ่มในประเทศ SME Siam เจาะกลุ่มในประเทศและ Thailand Check-in ที่จะมุ่งให้บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าไปซื้อธุรกิจ Digital Advertising ชื่อ Phoinikas ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Marketing จึงนับเป็นการเพิ่มศักยภาพในการทำสายงานธุรกิจใหม่ล่าสุด นั่นคือ ธุรกิจ Digital Commerce ครบวงจร ทั้งนี้ในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ทำให้สายธุรกิจมัลติมีเดีย มีความแข็งแกร่ง และครบวงจรยิ่งขึ้น และมีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาด Digital ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยคาดว่าจะมีรายได้ในสัดส่วน 20 % จากรายได้ทั้งหมด และจะขยายเป็น 40–50 % ภายในเวลา 3 ปี ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯ”
นายจักรกฤช ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สามารถ ไอ – โมบาย จะก้าวต่อไปด้วยความแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมด้วยการพัฒนาและนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองต่อ Digital & Mobility Life การแสวงหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อต่อยอดธุรกิจค้าปลีก และการรุกขยายสู่ต่างประเทศ โดยในปีนี้ ถึงแม้เป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก เพราะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจมากว่าด้วยประสบการณ์ของทีมงาน และ TEAMWORK ที่แข็งแกร่งความพร้อมในการให้บริการในเรื่องต่างๆ จะทำให้บริษัทมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในตลาด AEC ได้อย่างดี อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ล้วนเป็นแรงสนับสนุนขับเคลื่อนสำคัญให้กับสามารถ ไอ-โมบาย ในการดำเนินธุรกิจได้บรรลุสู่เป้าหมายได้ในที่สุด”