ด่วน..”ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” ลอยลำเครื่องบินส่วนตัว ถึง”ดูไบ”แล้ว ….อ่านเบื้องลึก…????? แผนลับสุดยอด เปิดร่องรอย…เส้นทางหนี!!!!…”ปู-ยิ่งลักษณ์”

0
1270

 

หนี3นักข่าวรอยเตอร์พยายามเข้าใกล้บ้านหรูของทักษิณที่ดูไบ แต่โดน รปภ.สกัด 27 ส.ค.60 – สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังได้รับการยืนยันว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางไปอยู่กับอดีตนายกฯทักษิณ ผู้เป็นพี่ชายแล้ว ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้พยายามจะไปที่บ้านพักของนายทักษิณ ที่ “เอมิเรตส์ ฮิลล์ส”  (Emirates Hills ) ซึ่งเป็นย่านพักอาศัยของคนรวย แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของย่านนั้นสกัด ไม่ให้เข้าไป

               หนีหนี2 นอกจากนี้นักข่าวรอยเตอร์ยังพยายามที่จะติดต่อนายทักษิณผ่านโฆษกส่วนตัวแต่ก็ไม่รับการตอบรับ หนี

พลิก!!!!!..การเมืองไทย ต่อกรณี “ยิ่งลักษณ์ฯ” กลายเป็นคนหายสาบสูญ ที่ทุกคนอยากรู้ “ปู” หายไปใหน????? สายข่าว ย้อนรอย ส่องร่องรอยอย…หลบหนี   ไม่อย่างไร? และหาก หนี…มีใครช่วยเหลือ?

    เริ่มร่องรอยแรก….ความเคลื่อนไหว “ยิ่งลักษณ์” ก่อนสาบสูญ

              ช่วงเช้าน วันพุธที่ 23 ส.ค.2560

              ” ยิ่งลักษณ์ “ได้ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 17 รูป โดยได้นิมนต์พระจากวัดบึงทองหลางมารับบาตรที่บ้านพัก ซอยโยธินพัฒนา 3

              ช่วงสาย……………….

ได้เดินออกจากบ้านพักไปยัง”วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร” ทำบุญไหว้พระถวายสังฆทาน กราบขอพร”สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี)”และทำปล่อยปลาเพื่อสเดาะเคราะห์

แกะรอย “ยิ่งลักษณ์” จาก “กัมพูชา” ถึง “ดูไบ”

              ประชาชนบริเวณนั้น เข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมให้กำลังใจ และต่างก็อวยพรขอให้ชนะในทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง

             สื่อหลายสำนักต่างพากันติดตามทำข่าว ทั้งภาพและข่าวการทำบุญนี้ จึงเป็นสิ่งครั้งสุดท้ายที่เห็น”ยิ่งลักษณ์”บนผืนแผ่นดินไทย 

              ต่อมา..วันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.2560

            “ยิ่งลักษณ์”ได้เฟซบุ๊ค Yingluck Shinawatra สื่อสารไปยังมวลชนผู้สนับสนุนตัวเธอและพรรคเพื่อไทย  โดยแจ้งว่า  

             “มวลชนไม่ต้องเดินทางมาที่ศาลฯ ขอให้รอฟังคำพิพากษาอยู่ที่บ้าน”

              จากโพสต์สุดท้ายของ”ยิ่งลักษณ์”

             เริ่มเกิดความเคลื่อนไหวทำนองว่า  “ยิ่งลักษณ์” อาจจะไม่มาฟังคำพิพากษา

             บ่ายวันนั้น ในไลน์ “กลุ่ม 40 อดีต ส.ว.” เริ่มมีการส่งข้อมูลทำนองว่า

             “ยิ่งลักษณ์เดินทางออกจากเมืองไทยไปแล้ว”

             ต่อมา “นายสมชาย แสวงการ” สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แจ้งข่าว “ยิ่งลักษณ์หนี”

            แต่ไม่มีใครปักใจเชื่อในข่าวสารนี้ ทั้งๆที่พอจะเป็นที่รู้กันว่า “สมชาย” อาจได้ข้อมูลลับสุดยอดนี้มา ด้วยมีความรู้ลึกกับ“นายทหาร” ระดับสูงของ คสช.

              วันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 9.00 น.

            “นายสมชาย แสวงการ” ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “สองคนสองคม” ทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องฟ้าวันใหม่

       โดยอ้างแหล่งข่าวได้ข้อมูลว่า

                “พบอดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 21:00 น. ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเข้าช่องทางธรรมชาติ ก่อนจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปยังสิงคโปร์ เพื่อต่อเครื่องไปยังนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”

แกะรอย “ยิ่งลักษณ์” จาก “กัมพูชา” ถึง “ดูไบ”

            และความจริงก็ปรากฎ

            “ยิ่งลักษณ์”หายตัวไม่ไปศาลฯ โดยอ้างว่า “ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน”

               จากนั้นก็เกิดความอลวน ต่อสังคมไทย ข่าวสารระดับ “วงใน” ก็พรั่งพรูออกมาจาก “แหล่งข่าว” ทั้งฝ่าย คสช. และพรรคเพื่อไทย 

              ร่องรอยเส้นทางหลบหนี”ยิ่งลักษณ์” เริ่มมีหลายกระแส หลายเส้นทาง แต่ที่ค่อนข้างตรงกันคือ

การเดินทางออกจากกรุงเทพฯ มุ่งตรงเกาะช้าง จ.ตราด

             ก่อนจะนั่งเรือไปขึ้นฝั่งที่เกาะกง ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินโปเชงตง กรุงพนมเปญ ไปต่อสิงคโปร์ และปลายทางที่นครดูไบ

              จากแหล่งข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 23 ส.ค. “ยิ่งลักษณ์”ออกเดินทางโดยลำพัง โดยไม่มี “นายตำรวจติดตาม” และน้องไปป์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่มี “นายทหารชั้นผู้ใหญ่” คอยอำนวยความสะดวกให้ โดยเธอแวะพักที่โรงแรมชื่อดังบนเกาะช้างช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนเดินทางเข้ากัมพูชา

              และการเดินทางเข้า กัมพูชา น่าจะมีควมปลอดภัยมาก เพราะความสัมพันธ์ระหว่างตระกูล “ชินวัตร” กับ”สมเด็จฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นั้น แนบแน่น

              กัมพูชาจึงเป็นร่องรอยแรก จุดเริ่มต้นเป็น “จุดผ่านทาง” ที่ปลอดภัยและสะดวกรวดเร็วที่สุดในการเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ และดูไบ 

              แต่จะว่าบังเอิญหรือไม่ ระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค.2560 “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย เดินทางไปร่วมการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา และได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคำนับสมเด็จฮุน เซน ด้วย

แกะรอย “ยิ่งลักษณ์” จาก “กัมพูชา” ถึง “ดูไบ”

       “ลับ ลวง พราง” นี้ เป็นยุทธวิธีชนิดลับสุดยอด   ทั้งคนภายในพรรคเพื่อไทย แม้ฝ่ายรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เองจะรู้เรื่องนี้ จุจำกัดที่แคบมาก แม้แต่การข่าวทหาร พลเมือง ก็ไม่มีการแพร่งพรายหลุดรอกออกมาแต่ประการใดๆ 

        แม้แต่ กลุ่ม”จำเลย” คดี ทีจูที ที่ศาลตัดสิน จำคุก ไม่ว่า”นายบุญทรงฯ -นายภูมิ และ จำเลย ทั้งหมดในคดีนี้ ต่างก็มั่นใจ ว่า”ยิ่งลักษณ์”กล้ามาศาล จึงสร้างความมั่นใจในการมาฟังคำพิพากษา และตลึงกับคำพิพากษาอย่างชนิดว่า จำเลยกลุ่มนี้ไม่เคยคาดคิดเลยว่า “ยิ่งลักษณ์” ไม่แค่หนีศาล หนีแม้แต่แผ่นดินเกิด กว่าจะรู้ตัวว่า มีเหตุการณืนี้เกิด ก็กลับตัวไม่ทันแล้ว เพราะเข้าไปอยู่ในขบวนการในศาลแล้ว ไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์ใดๆๆได้ทันแล้ว หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกมา อาจจะเกิดเหตุการณ์ มีการไม่ไปที่ศาลอีกเท่าใด หรือมีผู้สาบสูญเพิ่มเกิดขึ้นอีกจำนวนเท่าใดก็สุดจะประมาณได้ จะเกิดการลี้ภัยคณะใหญ่ จนกระทบต่อการ หายสาบสูญของ”ยิ่งลักษณ์”และการลี้ภัยของเธอในอนาคตหรือไม่ ดังนั้น พวกใหญ่ อยู่ติด  หลุดไปหนึ่งเดียว จึงง่ายไปทุกอย่าง ไม่ว่าการต่อรองในประเทศ หรือการไปต่างประเทศ

              ดังนั้น..ปฏิบัติการ “อุ้มยิ่งลักษณ์” ข้ามพรมแดนออกนอกประเทศ เป็นเรื่องที่ “สุดยอดแห่งสุดลับ” ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าว อดีตนายทหารผู้เชี่ยวกรำศึกมายาวนาน ย่อมมีความช่ำชองและชำนาญ ในยุทธวิธี

              ปฏิบัติการลับ!!!ลับ!!!!ลับ!!!! “อุ้มยิ่งลักษณ์” เป็น “ดีลลับ” สุดยอดของสุดยอด มีทั้งผู้รู้ไปสร้างภาพหลอกนักการเมืองพรรคไทย  และแกล้งมาเพียงเพื่อแสดงให้จำเลยในคดีกลุ่มแรกไม่ไหวตัวที่หน้าศาลฯมีทั้งแต่งตัวมารอเก้อเพราะไม่รู้เรื่องนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร    อนิจจา!!!!ต่างก็แอ๊คชั่นกันเต็มที่ โดยแท้จริงไม่มีใครทราบว่่า  อดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์” เธอหลุดลอยจากเอื้อมมือกฏหมาย จากแผ่นดินเกิดไปแล้ว โดยปิดร่อรอยไว้สนิท จนแม้ขณะนี้ 

หนี

              แหล่งข่าวสำนักข่าวต่างประเทศแจ้งค่อนข้างแน่ชัดว่า “อดีตนายกฯหญิง” เตรียมขอสถานะเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศ”อังกฤษ!!”

          คำว่า “หนี” คือยอดกลยุทธ์  หากกางตำราพิชัยสงคราม

              เมื่อสถานะการณ์เป็นรอง จำต้องหลีกเลี่ยงการปะทะ การสู้รบขั้นแตกหักกับข้าศึก  ใช้สามแนวทาง

          ยอมจำนน เจรจาสงบศึก ถอยหนี 

            การถอยหนี ตั้งหลัก การเจรจาหย่าศึก ชนิด ยอมแพ้วันนี้เพื่อ รอวันชนะวันหน้า จึงเป็นยุทธวิธี ที่รอมีวันชนะ วันข้างหน้า  การขอเจรจาสงบศึกคือการพ่ายแพ้ครึ่งหนึ่ง การถอยหนีกลับอาจจะแปรเปลี่ยนมาเป็นชัยชนะได้ในวัน

 นี่คือ เหตุผลและ ร่องรอย  การหลบหนี เพื่อรอวันกลับมาชนะของสองอดีต นายกรัฐมนตรีทั้งสอง คือ

“ทักษิณ -ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

ส่วนจะมีใหม!!!!!!!

วันใหนจะชนะ!!!!!!

วันใหนจะได้กลับมา!!!!

คงอยู่ในใจ!!!!!! และการรอคอย!!!!! ของท่าน….

ทั้งสอง????????????????….ที่ไปจากประเทศไทย

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.