“พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร” ผบช.สตม., “นายชาตรี อรรจนานันท์ “อธิบดีกรมการกงสุล และ”นายศิโรตม์ ดวงรัตน์” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมพิธีเปิดใช้งานช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Auto Gate สำหรับชาวต่างชาติ ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 โซนตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเปิดให้สิงคโปร์ใช้งานเป็นประเทศแรก จากนั้นสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดให้ผู้โดยสารจากประเทศอื่นๆใช้งาน ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายประเทศ โดยคำนึงถึงเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นหลัก
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า สตม.หารือร่วมกับ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต สิงคโปร์ และนายคลาเรนซ์ เหียว ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง และด่านพรมแดน ประเทศสิงคโปร์ (ICA) ในการเปิดให้ประชาชนสามารถใช้ช่องตรวจอัตโนมัติได้ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ด้วยการนำนวัตกรรมมาเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แก้ไขปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นในสนามบิน เนื่องจากข้อจำกัดด้านกายภาพ ทั้งพื้นที่ให้บริการผู้โดยสาร และจำนวนเคาน์เตอร์ช่องตรวจ เน้นการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดปริมาณผู้โดยสารที่เข้าตรวจกับเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นในสนามบินอย่างเป็นรูปธรรม
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวต่อว่า ระยะแรกเปิดให้ผู้โดยสารจากประเทศสิงคโปร์ใช้งานเป็นประเทศแรก ตามความตกลงในลักษณะแลกเปลี่ยน ซึ่งสิงคโปร์กำลังพิจารณาเปิดให้คนไทยใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติของสิงคโปร์เช่นกัน สำหรับระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ จะจัดเก็บข้อมูลของผู้โดยสาร ภาพถ่าย และลายพิมพ์นิ้วมือ เพื่อใช้ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนในการเดินทางครั้งถัดไป และทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า(APPS) สามารถตรวจสอบผู้โดยสารทันทีที่เช็คอินกับสายการบิน ทำให้ระบบมีความปลอดภัยสูง เชื่อถือได้ เสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าว……….
“ขณะนี้ได้เปิดทดลองให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นจะขยายไปถึงสนามบินนานาชาติทั่วประเทศ อาทิ ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมทั้งเปิดให้ชาติอื่นๆมาลงทะเบียน โดยจะพิจารณาเป็นรายประเทศ เน้นประเทศที่นักท่องเที่ยวมีศักยภาพสูง แต่ละปีมีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยจะคำนึงถึงเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นหลัก”
