#แกนนำชาวบ้านกว่า 70 คน# บุกยื่นหนังสือถึงรองผู้ว่าฯรักษาการผู้ว่าฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม ตัดค้านการขอสัมประทานบัตรของนายทุนขอต่อและเปิดโรงโม่หินที่ใบสัมประทานหมดอายุ เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเรื่องเสียงระเบิดหิน ฝุ่นละออง และรถบรรทุกวิ่งผ่านเข้าออก จะได้รับผลกระทบใยระยะยาว หากอนุญาตให้เปิด หรือก่อสร้างโรงโม่หินได้
**ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณสนามหญ้าภายในศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีจัวแทนกลุ่มชาวบ้านในหมู่บ้านรางสะเดา หมู่ที่ ต.พังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจาย และเสียงดังเกิดจากการระเบิดหิน ปัญหารถบรรทุก10 ล้อที่วิ่งเข้า-ออกในพื้นที่หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 5 ของ บริษัทโรงโม่ จึงเดินทางมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านในการขอประทานบัตรการเปิดโรงโม่หินของบริษัท สยามแกรนิต จำกัด ซึ่งบัตรสัมประทานได้หมดอายุลง ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายรณชัย จิตต์วิเศษ รองผู้ว่าราชการตังหวัดกาญจนบุรี รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าาชการจังหวัดกาญจนบุรี
**โดยมีนายวิสิษฎ์ พวงเพชร ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายจิรวัธน์ อารีย์ อุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี และนายไพรัญ จงจำรัสพันธ์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี นายประเสริฐ ทองด้วง ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี และนายวาทิต มาไพศาลสิน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง รับหนังสือจากนางจิราภา นิลนก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 4 บ้านรางสะเดา ต.พังตรุ อ ท่าม่วงฯ ซึ่งเป็น 1 ในแกนนำชาวบ้าน
**ซึ่งภายหลังรับหนังสือ นายวิสิษฎ์ ได้เชิญแกนนำกลุ่มชาวบ้านเข้าไปนั่งพูดคุยกันในสำนักงานศูนย์ดำรงธรรม เพื่อสอบถามปัญหา และเหตุผลที่กลุ่มชาวบ้านเดินทางมาในครั้งนี้
**นางจิราภา นิลนก 1 ในแกนนำชาวบ้านที่เดือดร้อนกล่าวว่า “สาเหตุที่กลุ่มชาวบ้านหมู่ 3 บางส่วน หมู่ 4 และหมู่ 5 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการระเบิดหินแกรนิตของบริษัท สยามแกรนิต จำกัด ที่เปืดกิจการโรงโม่หินอยู่ในพื้นที่ 3 หมู่บ้านซึ่งในขณะนั่นใบสัมประทานบัตรยังไม่หมดอายุ กลุ่มชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน หรือแม้แต่วัดได้รับผลกระทบทั้งในเรื่องฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายทำให้ชาวบ้านบางราบเกิดเจ็ยป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ เดือดร้อนในเรื่องรถบรรทุก 10 ล้อ ที่วิ่งผ่านเข้า-ออก และเดือดร้อนในเรื่องการระเบิดหิน
**ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายวิสิษฎ์ และนายจิรวัธน์ ได้ทำการชี้แจงกับตัวแทนกลุ่มชาวบ้านจนเป็นที่เข้าใจ ทำให้กลุ่มชาวบ้านที่มาต่างพอใจและเดินทางแยกย้ายกันกลับบ้านไปอย่างสงบ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย รส.ที่ 1 ร.9 พัน 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้ง อส.จังหวัดกาญจนบุรี นำกำลังเดินทางมาดูแลความสงบเรียบร้อย เหตุการณ์ทั่วไปเป็นปกติ