น้องมุก นางสาวแสงทิพย์ โชคอำนวย สอบได้เป็นที่ 1 ของทุนกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ปีนี้ และยังสามารถทำคะแนนสอบ 9 วิชาสามัญ วิชาคณิตศาสตร์เต็ม 100 เผยเคล็ดลับว่า “ต้องวางแผนล่วงหน้าในการอ่านหนังสือ เช่น กลับถึงบ้านประมาณ 6 โมง จะอ่านหนังสือถึง 4 ทุ่ม อาจจะพักบ้างทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้สมองได้พักผ่อน อีกทั้งแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้น้องมุกประสบความสำเร็จได้ก็มาจากครอบครัว อยากช่วยเหลือคนที่อยู่เขตห่างไกลความเจริญ ในส่วนที่แพทย์ยังเข้าไม่ถึง ซึ่งมุกอยากจะเข้าไปเติมเต็มในส่วนนี้”
ส่วนน้องอีฟ นางสาววรดา เกิดเกียรติขจร จากมหิดลวิทยานุสรณ์ คว้าทุนรัฐบาลญี่ปุ่น เรียนต่อด้านวิศวะเคมี ด้วยคะแนน GAT ภาษาอังกฤษสูงถึง 135 คะแนน และ PAT 3 (วิศวะ) 242 คะแนน ลบคำครหา เด็กเรียนเก่งไม่สนกิจกรรม โดยน้องอีฟกล่าวว่า “หนูทำกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งเป็นเชียร์หลีดเดอร์งานกีฬาสี เล่นดนตรีในสวน ออกแบบปกสมุดโรงเรียนและเสื้อโรงเรียน เราจะต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม เล่นก็คือเล่น ถึงเวลาอ่านหนังสือก็ต้องอ่านให้เต็มที่ และสิ่งที่สำคัญคือภาษาอังกฤษ ต้องเรียนรู้และฝึกฝนเป็นประจำ เพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
ด้านน้องภู นายธริศ ตั้งกิจวานิชกุล จากรั้วเตรียมอุดมศึกษา ได้รับทุน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ (ปตท.สผ.) ด้านธรณีฟิสิกส์ ปิโตรเลียม ศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา ด้วยคะแนนฟิสิกส์ 100 เต็ม พร้อมเผยเทคนิคการเรียนเก่งง่ายๆ ว่า “ผมจะเน้นการซื้อหนังสือมาอ่านเอง เรียนรู้ด้วยตนเอง ส่วนใหญ่ข้อสอบมีน้ำหนักภาษาอังกฤษเยอะ เราควรให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะภาษาอังกฤษเป็นวิชาทักษะเหมือนคณิตศาสตร์ จะพัฒนาได้เมื่อเราฝึกฝนทุกวัน และเราต้องหาแรงบันดาลใจของตนเองว่าเราสอบทุนไปทำไม อยากเรียนสาขานี้จริงไหม แล้วจะทำให้เราไปถึงจุดหมายได้ง่ายขึ้น”
ฝั่งน้องไนน์ นายธนนันท์ ประเสริฐทรัพย์ ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง สายศิลป์-คำนวณ ไปที่สหรัฐอเมริกา เผยเคล็ดลับว่า “อย่างแรก เราต้องประมาณตนเองในการอ่านหนังสือว่าจะต้องอ่านถึงจุดไหน ตั้งเป้าหมายของตนเองว่าแต่ละวิชาควรผิดไม่เกินกี่ข้อ และจะทำให้ถูกขึ้นในทุกๆ วัน และสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จแบบนี้ จะต้องมีความท้าทายในความสามารถของตนเองว่า เราทำได้ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ต้องทำให้ สุดความสามารถ ผลออกมาจะเป็นอย่างไรก็ไม่กังวล เพราะเราทำเต็มที่แล้ว”
และน้องมายด์ ภัทรมน วัฒนไพศาล จากโรงเรียนราชินีบน ผู้สอบติดทุนกระทรวงวิทย์ ศึกษาต่อด้านเกษตรศาสตร์ ที่ประเทศอังกฤษ น้องมายด์เผยเคล็ดลับว่า เน้นการทำความเข้าใจในสิ่งที่อ่าน แล้วสรุป ให้เป็นภาษาของตนเอง โดยการใช้สีในการจดเพื่อให้จดจำได้ง่าย ถ้าเป็นวิชาภาษาอังกฤษจะเน้นการสร้าง grammar เป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญเราจะต้องมีจุดมุ่งหมายในการเรียน มุ่งมั่น และขยัน แล้วจะประสบผลสำเร็จตามที่เราต้องการ”
แต่ละคนก็มีเคล็ดลับที่เด็ดไม่แพ้กัน อีกทั้งครูพี่หมุย ติวเตอร์วิชาภาษาไทย และสังคม แห่งโรงเรียน SociThai ได้เผยจุดร่วมของเด็กที่ประสบความสำเร็จไว้ว่า สิ่งแรกคือการวางแผนล่วงหน้า อย่างน้อย 1-3 ปี เพราะเรามีการเตรียมตัวมากกว่าคนอื่น ซึ่งจะทำให้มีโอกาสที่ดีกว่าด้วย ในส่วนของการทดลองสอบเราจะต้องได้ 100% เพราะเวลาสอบจริงคะแนนจะลดลงไปจากคะแนนจริง และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือภาษาอังกฤษ เด็กสายวิทย์มักจะเข้าใจผิดว่าอังกฤษไม่สำคัญ แต่แท้จริงแล้วภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในตัวตัดสินอนาคตของเราได้ ดังนั้นทุกคนควรฝึกฝนภาษาอังกฤษอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่อยากได้ทุน หรืออยากไปศึกษาต่อต่างประเทศ เมื่อเราเก่งภาษาอังกฤษก็จะทำให้เราก้าวไปถึงจุดหมายได้ง่ายขึ้น
