คำกล่าวอ้าง”นางผุศดี “
“ตัวดิฉัน มีปัญหาครอบครัวและสะสมมาหลายปีแล้ว ทำธุรกิจก็มีปัญหา บ้านก็โดนยึด อะไรที่เคยมีก็ไม่มีแล้ว จนต้องมาขับแท็กซี่ เพราะต้องรับผิดชอบครอบครัว มีหนี้ที่ต้องรับผิดชอบ จนทำให้เครียด ซึ่งเวลาเครียดก็จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีการซื้อยากิน ตามร้านขายยา เป็นยาคลายเครียด ยานอนไม่หลับ มีไปหาหมอคลินิกและร้านขายยา เพราะไม่มีเงิน “
จากกรณีมีคลิปที่ได้รับการแชร์จากสมาชิกเฟซบุ๊ก “Yaowalak Chusri” เตือนภัยแท็กซี่ ซึ่งใช้วาจาไม่สุภาพ และไล่ผู้โดยสารลงจากรถ จนต่อมามีการตรวจสอบพบว่า มีหมายจับคดีลักทรัพย์ โดยผู้ขับรถคันดังกล่าวชื่อ นางผุสดี อัญชัญภาติ“
ล่าสุดเวลา 09.50 น.วันที่ 5 เม.ย. นางผุสดี อัญชัญภาติ เดินทางมาพร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เพื่อมอบตัวคดีลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.58 ที่ย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยพ.ต.อ.อำนาจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นวันนี้ทางผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ ซึ่งอยู่ระหว่างรอ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น. เข้ามาสอบปากคำด้วยตนเองอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้มีพนักงานสอบสวน ในพื้นที่ที่ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะนี้เตรียมเข้ามาทำการอายัดคดี ส่วนการส่งฟ้องต่อศาลนั้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการคัดค้านประกันตัวอีกด้วย
ต่อมา นางผุศดี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า กราบขอโทษประชาชน และแท็กซี่ที่ทำให้เสื่อมเสีย ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นแบบนั้น แต่ด้วยอารมณ์เครียด จึงทำให้กล่าววาจาไม่สุภาพ และไม่สมควร ที่ผ่านมา ตั้งใจทำงานโดยสุจริต แต่บางครั้งอาจมีความเข้าใจผิด และทำให้สังคมมองว่าตนเป็นคนอันตราย ทั้งที่ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจเกิดความเข้าใจที่ทำให้เสื่อมเสีย จึงอยากขอโทษผู้โดยสารทุกคน ส่วนที่อ้อม ก็อธิบายผู้โดยสารแล้ว บางทีไปทางลัดผู้โดยสารอาจไม่รู้จนคิดว่าอ้อม ก็อยากจะไปส่งให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว
นางผุศดี กล่าวต่อถึงกรณีคดีลักทรัพย์ปี 58 ว่า ไม่เคยทราบว่า ผู้โดยสารทำอะไรตกไว้ ไม่ได้เอาไป ไม่รู้ว่าผู้โดยสารลืมไว้ ส่วนที่ไม่ได้มามอบตัว ก็เพราะไม่ทราบยังขับแท็กซี่อยู่เป็นปกติ
กับคำถามที่ว่า เมื่อปี 56 ที่โดนปรับเพราะใช้มีดข่มขู่ผู้โดยสารนั้น นางผุศดี กล่าวว่า เป็นคัตเตอร์ที่พกเอาไว้เผื่อซ่อมอะไร ไม่ได้เอามาใช้กับผู้โดยสาร
ถามถึงรายละเอียดเรื่องคัตเตอร์ นางผุศดี อ้างว่าจำไม่ได้ วันนั้นรับผู้โดยสารจากแพลตินัม ผู้โดยสารบอกว่าจะไปจรัญ 62 ขับมาทางแยกราชเทวี ผ่านเพชรบุรี ซอย 3 ผู้โดยสารทักว่า ทำไมไม่เข้าซอย จึงแจ้งว่ารถจะติดนะ และบอกว่า เข้าซอยต่อไปก็ได้ ซึ่งแม่ผู้โดยสารก็บอกว่า ถ้ารถติดก็ไม่ต้องเข้า แต่เมื่อเข้าเพชรบุรีซอย 5 ซึ่งรถก็ติด มิเตอร์ขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งมีการบ่นว่า แท็กซี่ไม่มีใครมาทางนี้ แต่ตนก็อธิบายว่า ไปทางทำเนียบตอนเย็นก็รถติด จนเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตนให้ผู้โดยสารจ่ายเงินแล้วลงดีกว่า เพราะไม่อยากทะเลาะ แต่ผู้โดยสารบอกว่าไม่จ่าย จึงเกิดโมโหและเถียงกัน เมื่อมาถึงสามเหลี่ยมดินแดง เขาเปิดประตูตะโกนให้คนช่วย ซึ่งเขาไม่ยอมปิด แม่เขาก็บอกว่า ให้จ่ายเงินไป และลงรถ มีการดึงเงินกันจนขาด ซึ่งเราก็อยากได้เงินเหมือนกัน