สน.โคกคราม
“พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล” ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิติธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นายสุรชัย แซ่ย่าง เจ้าของบริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด เป็นเงิน 20 ล้านบาท
พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ขอศาลอาญา รัชดา อนุมัติหมายจับ 1.พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย 2. พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา สว.กก.5 บก.ปอศ. 3.นายเสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ 4.นายอภิวัฒน์ ศรีนะพรม 5.นายเทพพิทักษ์ รัดทะนี 6.นายทรงวุฒิ เที่ยงธรรม 7. นายโอภาส ศรียา 8.นายอุทิศ ก่อแก้ว หรือ จ่าต้อย 9.นายฐิติกร ชื่นอุรา หรือ จ่ายักษ์ 10.นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งชุดลายพรางทหาร 4 คน และแต่งนอกเครื่องแบบอีก 5 คนรวม 9 คน บุกเข้าไปหานายสุรชัย แซ่ย่าง ที่บริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด เลขที่ 68 ซ.นวลจันทร์ 34 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
จากนั้น พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ได้อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบสังกัด 191 และกองปราบปราม ทำทีมาขอตรวจค้นบริษัทเกี่ยวกับ คดีความมั่นคงโดยไม่มีหมายศาล จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้แสดงเอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนของนายสุรชัย โดยกล่าวหาว่า ทำเอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนปลอม และพานายสุรชัยขึ้นรถเล็กซัส ทะเบียน วฉ 1100 กทม. เพื่อไปพบผู้บังคับบัญชา ที่กอ.รมน.ดอนเมือง โดยระหว่างเดินทาง มีนายโก๊ะ เต็ก ชวน เป็นคนขับรถและเป็นล่ามภาษาจีนไปในตัว และมีชายใส่เครื่องแบบทหารนั่งประกบ แต่ก่อนที่จะออกมาจากบริษัท ทางผู้เสียหายกลัวไม่ปลอดภัยจึงแจ้งให้พนักงานของบริษัทชื่อนายจีราวัฒน์ ลลิตนาถสิริ ขับรถตามไปด้วย
ผบก.สปพ. กล่าวต่อว่า จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้พานายสุรชัยไปพบพล.ต.จรูญที่โรงเรียนดอนเมืองจตุรจินดา และพูดว่านายสุรชัยมาจากไหน ได้บัตรประชาชนมายังไง ข่มขู่ว่าทำผิดกฎหมาย กล่อมให้เคลียร์ให้จบ ก่อนที่นายโก๊ะ เต็ก ชวน จะสื่อสารเป็นภาษาจีนกับนายสุรชัยว่า เจ้านายต้องการค่าคุ้มครอง 20 ล้านบาท ก่อนที่พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ จะบอกว่าให้จ่ายๆไปจะได้จบ แต่นายสุรชัยพยายามต่อรองจนเหลือ 2 ล้านบาท ก่อนจะสั่งให้นายจีรวัฒน์ขับรถกลับไปเอาเงินไปให้นายโอภาส ศรียา 1 ในกลุ่มคนร้ายที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 1 ล้านบาท จึงยอมปล่อยตัวนายสุรชัยออกมา ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้เสียหายให้นายจีรวัฒน์ไปโอนเงินให้คนร้ายอีก 1 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารชื่อนายโอภาส ศรียา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของตำรวจและทหารที่ถูกจับกุมนั้น ขณะนี้ทางต้นสังกัดคือ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. มีคำสังให้ พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือแจ้งถึงต้นสังกัดรับทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 ราย เป็นนายทหารระดับสูง 1 ราย คือพล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นสารวัตรทหารเรือ 4 ราย คือ นายเสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ นายอภิวัฒน์ ศรีนะพรม นายเทพพิทักษ์ รัดทะนี นายทรงวุฒิ เที่ยงธรรม เป็นตำรวจสัญญาบัตร สังกัดบช.ก. 1 รายจับได้ที่ จ.นครราชสีมา คือ พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา สว.กก.5 บก.ปอศ. เป็นพลเรือน 1 รายทำหน้าที่รับเงิน คือ นายโอภาส ศรียา และชาวสิงค์โปร 1 รายคือ นายโก๊ะ เต็ก ชวน
ส่วนที่เหลือ 2 รายคือ 8.นายอุทิศ ก่อแก้ว หรือ จ่าต้อย 9.นายฐิติกร ชื่นอุรา หรือ จ่ายักษ์ อยู่ระหว่างการหลบหนี คาดว่ายังอยู่ภายในประเทศ ทั้งนี้ ในชั้นของพนักงานสอบสวนนั้น ได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหา 5 รายคือ พล.ต.จรูญ อำภา นายเสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ นายอภิวัฒน์ ศรีนะพรม นายเทพพิทักษ์ รัดทะนี นายทรงวุฒิ เที่ยงธรรม และได้ทำหนังสือแจ้งถึงต้นสังกัดเพื่อรับทราบและดำเนินการตามจั้นตอน ส่วนที่เหลืออีก 3 ราย คือ พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา นายโอภาส ศรียา นายโก๊ะ เต็ก ชวน นั้นพนักงานสอบสวนจะนำตังฝากขังศาลอาญารัชดา ในวันนี้
นายทรงศักดิ์ วิโรจน์ถาวรกิจ ผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกันกับนายสุรชัย กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุมีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาในบริษัทประมาณ 10 คน แต่งเครื่องแบบประมาณ 6 บุกรุกเข้ามาโดนไม่มีหมาย เข้าไปเอาเชิฟเวอร์กล้องวงจรปิด ขอเข้าพบนายสุรชัย โดยอ้างว่ามาจาก กอ.รมน. และนำตัวตนไปที่ กอ.รมน.ดอนเมือง ได้ไปพบผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง คุยได้ประมาณ 1 นาที ท่านก็ออกไป จากนั้นมีล่ามเข้ามาคุยกับตนพร้อมขอเงิน 20 ล้าน จากการสอบถามทราบว่ามีผู้เสียหายกรณีเดียวเพิ่มอีกจำนวน 2 ราย ที่พัทยาถูกกรรโชกทรัพย์ไปประมาณ 4,000,000 บาท ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่ามีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก 3-4 รายขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนและเร่งจับกุมเต่อไป เพื่อมาดำเนินคดี