นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่าขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนซึ่งเป็นต้นทุนของน้ำจืดด้านการเกษตรมีปริมาณลดลง ทำให้ระดับน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมาก จนสามารถดันให้น้ำเค็มไหลเข้าไปในแม่น้ำหลายแห่งในพื้นที่ทำการเกษตร โดยเฉพาะบริเวณแถบปากแม่น้ำใน 4 ลุ่มน้ำสำคัญ รวม 12 จังหวัดได้แก่ ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำบางปะกง คาดว่าอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกว่า 1.7 แสนไร่ ใน 40 อำเภอ 187 ตำบล
สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุดวันนี้ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา มีน้ำใช้การได้รวมกันทั้งสิ้น 2,187 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังคงระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก วันละไม่เกิน 18 ล้านลูกบศก์เมตร เพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และผลักดันน้ำเค็มตามแผน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเค็ม ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบแล้ว เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้