อุทธาหรณ์!!!การทำข่าวบันเทิง..ที่ไม่บันเทิง…นักข่าวสาว ทำข่าวพระเอกดังมีเซ็กส์สาว!! โดนสวน..ด่าเหี้-กลางลานจอดรถ ถึงกับปล่อยโฮ น้ำตาไหลพราก (ชมข่าวช่องทีวี)

อุทธาหรณ์!!!การทำข่าวบันเทิง..ที่ไม่บันเทิง...นักข่าวสาว ทำข่าวพระเอกดังมีเซ็กส์สาว!! โดนสวน..ด่าเหี้-กลางลานจอดรถ ถึงกับปล่อยโฮ น้ำตาไหลพราก (ชมข่าวช่องทีวี)

0
559
นักข่าวสาว ทำข่าวพระเอกดังมีเซ็กส์สาว!! โดนสวน..ด่าเหี้-กลางลานจอดรถ
นักข่าวสาว ทำข่าวพระเอกดังมีเซ็กส์สาว!! โดนสวน..ด่าเหี้-กลางลานจอดรถ

อุทธาหรณ์จาก “ชัย บางสะแก” ฐานะอดีตหัวหน้าข่าวบันเทิง หลายฉบับ และสุดท้ายที่หนังสือพิมพ์”ข่าวสด”ปัจจุบันเจ้าของ/บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย”

โดยการทำข่าวบันเทิง ตกทอดกันมาทุกยุคสมัย ทำข่าวบันเทิง ข่าวที่ฮิตมากอันดับ1 หนีไม่พ้นเรื่อง บนเตียง ของดาราและคนบังเทิง ยิ่งเป็น ดาราหญิง บันเทิงหญิง ถ้ามีแพลมเรื่องเซ็กส์หลุดแวบขึ้นมา นักข่าวสายบันเทิง ประสาทจะผึ่งขึ้นมาทันที ถูกกระตุ้นให้ตาจะลุกวาว วา่ดภาพข่าวชิ้นนี้เป็นสุดยอดของข่าว ยิ่งสามารถเจาะลึกได้เร็วแค่ฉบับเดียว/หรือสำนักเดียวได้ยิ่งถือเป็นผลงานข่าวบันเทิงที่สุดเยี่ยมยอดมากๆ ดังนั้นบางครั้งจึงเป็นที่มาของ บางทีนักข่าวบันเทิงก็นั่งนึกมโนภาพ เต้าเขียนข่าวขึ้นมาเพื่อปลุกกระแสร์ถือเป็นผลงานของตัวและสื่อที่สังกัดอยู่ ที่เขาเรียกข่าวนี้ว่า”นั่งเทียน”เขียน คือข่าวตามมโนขึ้นเอง จนเป็นที่เอือมระอาต่อบรรดาดาราคนวงการบันเทิง และเป็นไม้เบื่อไม้เมาตลอดมา แต่ข่าวเต้าเขียน หรือข่าวนั่งเทียนเขียน ถ้าไม่เกี่ยวกับข่าวเซ็กส์ ดาราและคนวงการบันเทิงกลับชอบมาเพราะเป็นประโยชน์ปลุกกระแสร์ให้ตนเองดังขึ้น ทั้งๆที่ความจริงไม่มีอะไร ดังนั้นข่าวจริง ข่าวนั่งเทียน ถ้ามีผลดีกับดารา ก็จะเป็นที่ชื่นชอบกับตัวดาราและคนบันเทิงนั้นๆ แต่ผลเสียตกกับท่านผู้เสพข่าวที่ท่านจะได้รับการยัดเยียดข่าวที่ไม่เป็นจริง (ที่จริงข่าวประเภทเต้าข่าวเขียนข่าวหลอกสังคม นั้น”ข่าวการเมืองยิ่งมีการทำข่าวประเภทนี้มากยิ่งกว่าข่าววงการบันเทิงเสียอีก เป็นข่าวหลอกที่บางครั้งเลวร้ายมากไม่มีความเป็นจริงแม้แต่%เดียว)

ด้วยเหตุใด? ข่าวเรื่องเซ็กส์ ในวงการบันเทิง นักข่าวบันเทิงจึงสนใจเจาะจงที่จะทำข่าวนี้อย่างจริงจัง ก็ด้วย สังคมไทย ชอบสนใจเรื่องของคนอื่น โดยไม่สนใจตัวเอง อยากรู้เรื่องของชาวบ้าน โดยเฉพาะ ในทางที่ไม่ดีเช่นเรื่องชู้สาว ใครจะไปลักลอบมั่วเซ็กส์กับใคร? ( ดังเช่นลครทีวีที่น้ำเน่า เรื่องแย่งผัว แย่งเมีย เรื่องมั่วเซ็กส์ มั่วกาม ยังมีออกอากาศเกลื่อนอยู่ตามช่องทีวี ก็ด้วยเหตุผลนี้) เพราะสังคมไทย บีบบังคับ ให้สื่อวงการบันเทิง ต้องทำสื่ออกมาในลักษณะนี้ หากทำสื่อด้านความดีผลงาน ความสามารถ ประชาชนจะไม่ให้ความสนใจ และที่เลวร้ายกว่าสื่อบันเทิง

ข่าวการเมือง ข่าวที่มอมเมา เรื่องโชคลาภ เรื่องหวยยิ่งเลวร้ายกว่านี้ และทำใมสื่อหลักหลาย จะแย่งกันมอมเมาประชาชน เรื่องโชคเรื่องโชคลาภ/ใบ้หวย ก็ด้วยคนไทยคิดแต่อยากรวยง่ายๆโดยไม่คิดทำอะไร ไม่คิดมีความอยู่อย่างพอเพียง ไม่หันมองตนเอง หาประกอบอาชีพมีรายได้รวยได้ แต่ที่มีอาชีพทำอย่างไรก็ไม่รวยก็ยังอยากรวย ก็คิดรวยทางลัด ด้วยการเล่นหวย หวังรวยทางเบอร์ สื่อจึงตอบสนองมอมเมาใบ้หวยให้เลข ให้สังคมไทยเต็มไปด้วยความเพ้อฝัน ตราบเช่นทุกๆวันนี้!!!

โดยฐานะ นักข่าวบันเทิงรุ่นก่อน จึงติงไว้ให้เป็นอุทธาหรณ์ เรื่องทำข่่าว ด้านข่าวคาว ดาราหรือวงการบันเทิง ที่จริง เขาเหล่านั้นก็เป็นมนุษย์ปุถุชน และเสรีในเซ็กส์ เขาย่อมมีเซ็กส์ใดๆๆก็ได้ ตราบใดที่เซ็กส์!! เขาไม่ผิดกฎหมาย จริงอยู่สังคมไทยชอบรับรู้ข่าวประเภทนี้ แต่ก็คำนึงถึงสิทธิ์ส่วนตัวเขา ถึงแม้เขาจะเป็นคนสาะารณะก็จริง แต่เรื่องเหล่านี้เป็นความลับส่วนตัว เฉพาะบนเตียงของเขา เราก็อย่าไปละลาบละล้วงเขาจนเกินเหตุ เอาแค่เขาพอรับไหว มุ่งเสนอข่าวด้านผลงานและอื่นของเขาในมุมสว่างที่เปิดเผย นักข่าวดาราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ไม่มีคำว่า …เหี้..ออกมาเช่นนี้

เรื่องข่าวคาว…ความความลับดารา “ชัย บางสะแก” จะนำเรื่องจริง ในตดีข่าวเซ็กส์ดาราสาวดังแห่งยุคอดีต มาให้ได้รับรู้ ย้อนอดีตไปหลายๆสิบปี ยุคดาราดังคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา คู่ขวัญกับ เพชรา เชาว์ราษฏร์” และ “สมบัติ เมทินี กับ อรัญญา นามวงศ์” ในยุคนั้น หนังสือพิมพ์บันเทิง อันดับหนึ่งของสื่อบันเทิงไทยในอดีตนั้น คือ หนังสือบันเทิงที่ชื่อว่า “ดาวทอง” ขณะนั้น มี “นายกิตติ สิงหะ ผแดง) เป็นบรรณาธิการ และ “นายจักรวาล ชาญนุวงศ์” เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ (ขออภัยที่เอ่ยนาม ทั้งส่องท่าน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) โดยฐานะบรรณาธิการ ต้องรับผิดชอบในทุกกรณีที่มีข้อความทุกตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ในฉบับนั้น

ได้ทำข่าวจริงข่าวหนึ่ง.. ตือดารายุคนั้น ถือมากการที่ ดาราไม่ว่า ญิง/ชาย จะมีสามีหรือมีแฟนไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งขณะนั้น พระเอกดังแห่งยุคนั้น คือ “สมบัติ”ก็มีภรรยอยู่แล้ว ที่ชื่อ “คุณกาญจนา” ซึ่งก็ยังครองรักกันมาจนถึงขณะนี้ แค่ข่าว”สมบัติ”แพลมออกมาหน่อยเดียว ว่าสมบัติมีแฟนแล้ว ขนาดไม่ลงลึกว่าเป็นภรรยา ด้วยขณะนั้ข่าวเช่นนี้ แฟนดารายุคนั้นรับไม่ได้แทบจะเป็นจะตาย ขนาดข่าวนั้นเปิดมาในลักษณะข่าวโคมลอย ไม่มีภาพ ไม่มีการยินยันชัดเจน เพราะนักข่าวบันเทิงยุคนั้นให้เกียรติคนเป็นข่าวบันเทิงสูงมาก

แต่ที่จะเล่าข่าวคาวจริงสมัยนั้น ทำเอา “บก.ดาวทอง” ถึงกับติดคุก ก็ด้วยดาราสาวอันดับหนึ่งสมัยนั้น ซึ่งมีความสวยงามอย่างยิ่งยวด มีผู้ชายที่ใกล้ชิดมาหน้าหลายตา ก็เป็นธรรมดา ของดาราสาวดัง สวยงามย่อมเป๋นที่หมายปองของชายหลายระดับ หลายอาชีพ เช่นนี้

คือข่าวที่พาดหัวและเนื้อข่าวในหนังสือพิมพ์บันเทิงที่ชื่อไดาวทอง”ว่า”ดาราสาวดัง (ชื่อดารา…..)เป็นฮิททีเรีย” (ความหมายคือ ดาราสาวท่านนี้ มีความต้องการทางเซ็กส์สูง และมากหน้าหลายตา) ผลคือยอดขายหนังสือบันเทิงเล่มนี้ยอดขายถล่มทลายต้องพิมพ์เพิ่มยอดมาก (เพราะสื่อสมัยก่อนแคบจำกัดคือมีแค่สื่อสิง่พิมพ์กับทีวี และสมัยนั้นสื่อทีวีก็จะไม่มีข่าวบันเทิงเช่นปัจจุบัน และไม่มีสื่ออนไลน์เหมือนขณะนี้)

สิ่งที่ตามมาคือดาราสาวดังท่านนี้ ฟ้องเป็นคดีสู่ศาล มีการต่อสู้ สืบพยาน และการสืบพยาน สิ่งเดียวที่ทางหนังสือพิมพ์สู้ไม่ได้คือ คำถามที่ตอบไม่ได้ คือแม้มีภาพถ่ายแอบถ่ายยืนยัน ว่า ดาราสาวผู้นี้มีการจูงมือชายเข้าไปในห้อง สถานที่แห่งหนึ่งสองต่อสอง และที่ตอบไม่ได้คือ คำถามที่ว่า มีการเข้าไปในสถานที่ลับสองต่อสองเช่นนี้ แล้วภายในห้อง รู้เห็นใหม? ตามที่เขียนข่าวว่ามีการร่วมเซ็กส์กัน เมื่อตอบว่าไม่เห็นภายในห้องขณะที่มีเซ็กกส์กันภายในห้อง ผลของคดีคือตัดสินมีความผิด ฐานหมิ่นประมาท ( ในอดีต บก.หนังสือพิมพ์ จะโดนคดีหมิ่นประมาทเกือบทุกข่าวเป็นหน้าที่ที่ต้องเดินขึ้นศาล และศาลในอดีต ก็มักจะเห็นใจ บก. ที่ต้องแบกความรับผิดชอบทุกเรื่องในหนังสือพิมพ์ แม้ไม่ได้เขียนเอง ก็มักจะตัดสิน มีความผิดแต่ลงอาญา แต่คดีนี้ บังเอิญ ชายในภาพ เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับ กับคดีนี้ แม้ ทางบก.หนังสือจะลง แก้ข่าว ขอโทษในหนังสือ ซึ่งทางปฏิบัติ ก็มักจะมีเหตุบรรเทาโทษ รอลงอาญาเสมอมา แต่คราวนี้ คราวซวย ของ บก.กิตติ สิงหะ(แดง) คือแม้อุทธรณ์และคดีถึงที่สุด คือ คงยังโดนโทษจำคุก6 เดือน นับเป็นรายแรกในวงการสื่อในขณะนั้น ที่ บก.ติดคุกด้วยข่าวดารา จึงนำเป็นอุทธาหรณ์ต่อสื่อ ในยุคปัจจุบัน และขณะนี้แนวคิดของศาลเริ่มเปลี่ยนจากอดีตมาก มีการตัดสินคดีสื่อที่ค่อนข้างจะรุนแรงมากขึึ้นกว่าเดิมมาก

ที่จะบอกสื่อ หรือสื่อบันเทิงปัจจุบัน ว่า ถ้าทำข่าว ที่ผู้เป็นข่าวอึดอัด ถ้าเขาตอบโต้มาบ้างด้วยการที่ระบายก็อย่าถือสาเอาเป็นสาระกันมากนัก อย่างเช่นถูกด่า คำว่า เหี้..นี้….ก็ขอให้ฟังเพี้ยน เป็นคำว่า..”เพียบ” อย่างที่บอกว่าทีแรกได้ยินนึกว่าคำนี้ เพราะข่าวดารา ข่าวบันเทิง เนื้อหาสาระจะไม่จริงจังกันเท่าใด เขาจึงเรียกกันว่า “วงการมายาคือความไม่จริง” ดังนั้น ขอฝากถึง นักข่าวสาวที่ทำข่าวและเป็นช่าว..ซะเอง เมื่อเราถามเขาเรื่องลี้ลับสำหรับเขา เมื่อเขาระบายคำว่า..เหี้…ก็ให้ฟังเป็นคำว่า..เพียบ…อย่างที่คิดแต่แรก ไม่ต้องร่ำไห้เสียน้ำตา..เก็บน้ำตาที่มีค่าไว้เถอะ”นักข่าวสาวหมิว” เก็บน้ำตาที่มีค่านี้ไว้หลั่งกับสิ่งที่มีค่ากว่า”ดาราชาย”คนนี้!!

ฝากถึงสื่อปัจจุบัน ทุกแขนง สื่อ คือ”ฐานันดร4 ” ที่ต้องมีจรรยาบรรณในการทำสื่อ ทำข่าวใดๆให้ตรงตามจริง คำนึงถึงสาธารณะชน อย่าเอาอารมณ์ของตนเป็นหลักในการทำสื่อ สมัยที่ “ชัย บางสะแก) ทำสื่อบันเทิง จะหลีกเลี่ยงไม่นำเสนอข่าวคาวเรื่องเซ็กส์ ชู้สาวของดารา/คนวงการบันเทิงในการทำ”สื่อ”

และดาราหรือคนวงการบันเทิงเวลามีงานแต่งงานก็แปลกๆมักจะไม่ให้สื่อเข้าทำข่าว ก็อย่าไปยื้อแย่งเข้าไปทำข่าวเสียเวลาเปล่าๆ ข่าวประเภทนี้ก็ไม่ได้เป็นสาระสร้างสรรกับสังคมไทยแต่ประการใด และฝากถึงนักข่าว ทำเนีบยรัฐบาล และรัฐสภา อย่าได้ทำข่าว “นายกฯ” เลย ตราบใดท่านยังใช้สำเนียงสำรากเช่นนี้ และแสดงกริยา ดูถูกดูแคลน การพูดตำหนิ การพูดเหน็บแหนม ต่อนักข่าว เช่นนี้ เพราะท่านไม่มีคุณวุฒิ ที่มากพอและเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำประเทศ บอกตรงนักข่าวรุ่นพ่อ รุ่นพี่ เขาอายแทน นักข่าวน้องๆ ลูกๆ หลานๆ ที่ไปสัมภาษณ์นากยกฯ ที่ไร้สภาวะผู้นำเช่นนี้

อ่าน…ข่าวคลิปข่าว……. “นักข่าวสาว”ร่ำไห้!!! ถูก”ดาราหนุ่ม” ด่า “คำว่า เหี้..!!”

ประเด็นร้อนวงการบันเทิง!!!

2 นักข่าว ทีวีพูล TVPool “บ๊ะจ่าง และ หมิว “ไปทำข่าวไลฟ์สดผ่าน”เพจTVPool”

โดยสัมภาษณ์พระเอกดังรายหนึ่งในงานอีเวนต์ ถึงกระแสร์ข่าวในเรื่องที่พระเอกหนุ่มนี้มีความสัมพันธ์กับสาวในเชิงรักใคร่ ซึ่งพระเอกหนุ่ง ก็มีทีท่าไม่อยากตอบคำถามนี้ ก็ถือว่าจบไปในขณะนั้น แต่ต่อมาภายหลัง 2นักข่าวนี้ กับนักข่าวชสื่ออื่นๆ ได้มาพบกับพระเอกอีกครั้งที่ลานจอดรถ นักข่าวที่ชื่อ”หมิว” ที่เป็นผู้สัมภาษณืข่าวเว็กส์นี้กับพระเอกหนุ่ม ซึ่งได้พกความไม่พอใจไว้แต่แรก เมื่อนักข่าวหมิวเข้าไปทักทาย พร้อมขอถ่ายรูปด้วย โดนเจอสวนกลับว่ากลับด่าว่า “ถามเหี้-มาก”

คำบอกเล่านักข่าวคู่กรณี

(โดยในไลฟ์สด บ๊ะจ่าง ทีวีพูล เล่าว่า ตนเองและหมิวไปทำข่าวสัมภาษณ์พระเอกคนหนึ่ง นักข่าวทุกสำนักถามถึงความสัมพันธ์ของพระเอกหนุ่มกับสาวคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนพระเอกรายดังกล่าวไม่ค่อยอยากตอบ เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี แต่หลังจากนั้นตอนที่ บ๊ะจ่าง-หมิว มาที่ลานจอดรถ เพื่อเดินทางกลับ ก็บังเอิญเจอพระเอกหนุ่มซึ่งจอดรถชั้นเดียวกันพอดี หมิวก็เลยหันไปพูดกับพระเอกหนุ่ม ยกมือไหว้บอกว่าสวัสดีค่ะ แต่กลับได้ยินพระเอกดังตอบกลับมาว่า “ถามเหี้-เนาะ”) “บ๊ะจ่าง”เล่าต่อว่า ตอนนั้นก็กำลังจะเดินมาที่รถแล้วถามกันว่าได้ยินเหมือนกันมั้ย ก็มีนักข่าวช่องหนึ่งถามว่า “น้องๆ ได้ยินเหมือนกันมั้ย”

##########

#หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย”#ข่าวทั่วไทย-ไกลทั่วโลก#

เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ผดุงความธรรมในสังค

#เปิดอ่านทาง WEBSITE: https://www.thailandworldnews.com

หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย##นายสิทธิชัย ไชยกิจ (ชัย บางสะแก) เจ้าของ-บรรณาธิการ #

#ติดต่อกองบรรณาธิการ #……#ประสงค์ ส่งข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์ร้องขอความเป็นธรรม”เครือข่ายบุติธรรม”

ส่งเรื่องต่างๆมาที่อีเมล : THAILANDWORLDNEWS@GMAIL.COM

เครือข่ายยุติธรรม

    เพื่อความเป็นธรรมในสังคม

#########

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.