“นายสมชาย แสงรัตนมณีเดช” โฆษกกรมสรรพากร กล่าวถึงกรณีที่สำนักงาน ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 4 คน ผิดวินัยร้ายแรงฐานร่วมกันทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ให้แก่ผู้ประกอบการ เป็นเท็จมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีเก่าและเป็นกลุ่มคนเดียวกับคดีทุจริตออกใบกำกับภาษีเท็จเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม มูลค่ากว่า 4,300 ล้านบาท ของนายนายสาธิต รังคสิริ สมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งคดีนี้มีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก
**รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่สรรพากร 2 คน ตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ถูกไล่ออกจากราชการไปแล้วในปี 2558 คือ นายนายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 และนายป้อมเพชร วิทยารักษ์ ส่วนนางศศิพิมพ์ บรรดาเสียง และ น.ส.อารีย์วรรณ เกาสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ ซึ่ง ป.ป.ช. ใช้เวลาไต่สวนและมีมติออกมาแล้ว จากนั้นต้องเข้ากระบวนการพิจารณาของ อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง ให้มีมติไล่ออกจากราชการตามขั้นตอนของระเบียบราชการ หลังจากที่ ป.ป.ช. ส่งหนังสือมาถึงกรมสรรพากรแล้ว
**คดีทุจริตขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มมูลค่ากว่า 4,300 ล้านบาท ถูกเปิดโปงครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 2556 ที่มีข้าราชการกรมสรรพากรถูก ป.ป.ช. ชี้มูลวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญา โดยไล่ออกจากราชการแล้ว ได้แก่ นายสาธิต รังคสิริ, นายศุภกิจ ริยะการ หรือนายสิริพงศ์ ริยะการธีร, นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์, นายพายุ สุขสุดเขียว, นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ และนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ โดยขบวนการโกงภาษีมูลค่าเพิ่มนี้นับเป็นขบวนการใหญ่สุดในประวัตศาสตร์ มีข้าราชการเกี่ยวข้องรวม 23 คน