ข่าวในพระราชสำนักประจำวันที่ 7 เมษายน 2559 รายงานข่าวสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยพระราชกรณียกิจเมื่อวันที่ 5 เมษายน หลังเสด็จพระราชดำเนินร่วมพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ “วัฒนธรรมราษฎร์และวัฒนธรรมหลวง สิ่งที่เหลียงซิเฉิง มองข้ามไปที่เขาอู่ไถ” ที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ต่อมา เมื่อเวลา 17.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ นายหลี่ หยวนเฉา รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และถวายพระกระยาหารค่ำในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ
รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กราบบังคมทูลว่าปลาบปลื้มใจที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทอีกครั้ง หลังจากปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสถวายพระยาอาหารค่ำ และการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 39 เพื่อส่งเสริมมิตรภาพจีน-ไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โอกาสนี้ขอถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี และขอถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 รวมทั้งขอถวายพระพรเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายนด้วย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสเรื่องการส่งเสริมความส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนทุกด้าน อาทิ ด้านเกษตรกรรม จีนให้ความร่วมมือนำชาน้ำมันมาปลูกในไทย ขณะนี้ได้ผลดีมาก สามารถนำชาน้ำมันมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย นอกจากนี้ยังส่งเสริมด้านพันธุ์ปลา รวมทั้งความร่วมมือในโครงการหลวงด้วย ขณะเดียวกันควรส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการป้องกันและขจัดปัญหาการค้ายาเสพย์ติด ที่สำคัญเรื่องแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงที่นายกรัฐมนตรีเพิ่งมาประชุมนั้น เพื่อความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง พร้อมกันนี้ทรงขอให้ทางการจีนปล่อยน้ำมาในฤดูแล้งเช่นนี้ตลอดทุกปี
รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กราบบังคมทูลเรื่องความร่วมมือด้านการรถไฟ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสว่า ควรสนใจร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงด้วย เพราะจะเป็นเรื่องยั่งยืน ทำให้ไทยพึ่งตัวเองได้ ในลักษณะเดียวกับที่จีนได้พยายามเรียนรู้เรื่องนี้จากชาติตะวันตก เมื่อเริ่มสร้างรถไฟความเร็วสูงในประเทศจีน
