นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ขณะนี้ สภาพอากาศประเทศไทยยังร้อนจัด ผู้ที่ทำงาน หรือ ออกกำลังกลางแจ้ง หรือ ในที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจเป็นโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้ ซึ่งหน้าร้อนปีนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึง 22 เมษายน 2559 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดแล้ว 34 คน และยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในเดือนพฤษภาคมนี้ สภาพอากาศจะยังคงร้อนจัด โดยผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดโรคลมแดด ได้แก่ ผู้ที่ทำงาน หรือ ทำกิจกรรมกลางแดด เช่น กรรมกรก่อสร้าง เกษตรกร นักกีฬาสมัครเล่น ทหารที่เข้ารับการฝึก โดยปราศจากการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมเผชิญสภาพอากาศร้อน ผู้สูงอายุ เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง คนอดนอน และคนที่ดื่มเหล้าจัด
นายแพทย์โสภณ เมฆธน กล่าวต่อว่า ผู้ที่เป็นลมแดดจะมีอาการเริ่มต้น คือ รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ไม่มีเหงื่อออก รู้สึกกระหายน้ำมาก ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส จะมีอาการสับสน ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด ไวต่อสิ่งเร้าง่าย และยังอาจมีผลต่อระบบไหลเวียน มีอาการภาวะขาดเหงื่อ เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อค หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ แม้จะเป็นคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงก็ตาม หากอยู่กลางอากาศร้อนจัด ก็ต้องปฏิบัติตัวเองให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เป็นโรคลมแดด
ในการป้องกันโรคลมแดด ขอให้พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัด ไม่การออกกำลังกาย หรือ ทำงานกลางแดดเป็นเวลานาน ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย สีอ่อน ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดรูป สวมแว่นกันแดด กางร่ม ทาโลชั่น ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนออกบ้านในวันที่อากาศร้อน และดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนรู้สึกกระหาย หรือ ริมฝีปากแห้ง หากหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ กลางแดดจัดไม่ได้ ควรดื่มน้ำชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้จะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ดูแลไม่ให้เด็ก ผู้สูงอายุอยู่กลางแดดหรือในรถที่จอดตากแดด ผู้มีโรคเรื้อรังให้รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ แก้น้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกายหรือการอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นเวลานาน สำหรับผู้ที่ต้องออกไปทำงานหรือออกกำลังท่ามกลางอากาศร้อน ขอให้เตรียมร่างกายโดยการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที เลือกออกกำลังกายการช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน
ทั้งนี้ หากพบผู้มีเป็นลมแดด ขอให้รีบนำเข้าที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก ให้นอนราบยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูงเพื่อเพิ่มการไหลเวียน ถอดเสื้อผ้าให้เหลือน้อยชิ้น คลายชุดชั้นใน เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลงเร็วที่สุด ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น น้ำแข็งประคบตามซอกคอ หน้าผาก รักแร้ ขาหนีบร่วมกับใช้พัดลมเป่า เพื่อระบายความร้อนและลดอุณหภูมิร่างกาย ไม่ควรใช้ผ้าเปียกคลุมตัวเพราะจะขัดขวางการระเหยของน้ำออกจากร่างกาย หากไม่หมดสติให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ และนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หรือโทรขอความช่วยเหลือสายด่วน 1669