วันนี้ (19 เม.ย.59) สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ นำคณะเจ้าหน้าที่มาสาธิตและแสดงผลงานระบบอากาศยานไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่งขนาดเล็กแบบมัลติโรเตอร์ เพื่อแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีให้กับสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่และตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ได้ชมที่บริเวณลานพื้นแข็งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี
พลเอก สมพงศ์ มุกดาสกุล ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กล่าวว่า ระบบอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle : UAV) เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจทางทหารในภารกิจลาดตระเวน การข่าว การเฝ้าระวัง ซึ่งในส่วนของประเทศไทย สทป.ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ปัจจุบันมีผลงานอากาศยานไร้คนขับจากการวิจัยและพัฒนาโดยบุคลากร สทป.ออกมาในหลายรูปแบบ เพื่อรองรับภารกิจด้านทหารและภารกิจด้านอื่นๆ ที่นิยมใช้ข้อมูลจากภาพภ่ายทางอากาศมากขึ้น สำเร็จมาแล้วหลายโครงการ ทั้งที่เป็นผลงานของ สทป. และโครงการที่เกิดจากความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกมากมายหลายระบบ ได้แก่ ระบบอากาศยานไร้คนขับแบบขึ้นลงทางดิ่ง, ระบบอากาศยานไร้คนขับแบบปีกนิ่ง ระบบอากาศยานไร้คนขับระยะกลาง, ระบบอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็ก แบบส่งขึ้นด้วยมือ และระบบอากาศยานไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่งขนาดเล็กแบบมัลติโรเตอร์
และในปัจจุบันความต้องการของหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานทหาร รวมไปถึงภาคพลเรือนและเอกชนมีแนวโน้มสูงขึ้น สทป.จึงทุ่มงบประมาณกับบุคลากรและการวิจัยในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเพราะเราสามารถผลิตอากาศยานไร้คนขับที่เป็นต้นแบบให้กับทางกองทัพ หรือหน่วยงานอื่นๆ ตามความต้องการและภารกิจได้ อีกทั้งยังสามารถนำไปนำเสนอให้กับภาคเอกชนนำไปต่อยอดในการผลิตเพื่อจำหน่ายหรือพัฒนาในเชิงพาณิชย์ต่อไปได้ และยังสามารถพัฒนาบุคลากรและเสริมสร้างสมรรถนะให้มีขีดความสามารถที่สูงขึ้นจนเทียบเท่ากับอากาศยานไร้คนขับระดับต่างประเทศได้
ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทาง สทป.ได้ดำเนินการตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้หน่วยงานต่างๆ เกิดการบูรณาการงานร่วมกัน สามารถใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ บ้างนอกจากด้านการทหาร และเพื่อเป็นการพัฒนา โดยมี สทป.เป็นเจ้าภาพ ซึ่งขณะนี้หลายหน่วยงานได้มีการร้องขอเข้ามาร่วมอบรมและศึกษากับทาง สทป. โดยอากาศยานไร้คนขับ แบบมัลติโรเตอร์ ที่ทางสถาบันได้ดำเนินการผลิตและนำมาทดสอบในวันนี้เป็นอากาศยานที่สามารถบันทึกภาพได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน สามารถค้นหาเป้าหมายที่เป็นบุคคลได้ ต้นทุนผลิตอยู่ที่ประมาณเครื่องรวมอุปกรณ์ทั้งชุดประมาณ 300,000 บาท รัศมีการบินประมาณ 2 กิโลเมตร ทำการบินประมาณ 30 นาที ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการส่งมอบให้กับหน่วยงานที่ขอเข้ามาเพื่อไปใช้ในภารกิจทั้งหน่วยทหารพรานใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมราชทัณฑ์ และตำรวจเพื่อนำไปใช้ในภารกิจ จำนวน 10 เครื่อง และการสาธิตในครั้งนี้เป็นการทดสอบสมรรถนะทางอากาศยานไร้คนขับที่นำมาทดสอบการใช้สำหรับการติดตามงานด้านการจราจรของตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี
