นายกรัฐมนตรี แจงคำถาม 4 ข้อ อยากให้ประชาชนร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาประเทศ-ขัดแย้ง ย้ำโรดแมป ไม่หวังสืบอำนาจเดินหน้าเลือกตั้ง เร่งแก้ซื้อขายตำแหน่งจริงจัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ทางสถานีโทรทัศน์ รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงการตั้ง 4 คำถาม ว่า เพื่อเป็นคำถามปลายเปิดที่ต้องการให้สติ และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของประเทศ และกำหนดอนาคตของเราเพราะหลายอย่างกำลังเดินหน้าไปตามโรดแมป ที่กำลังพิจารณาทำกฎหมายลูกซึ่งหากคิดไม่ตรงกัน ก็จะทำให้กฎหมายมีปัญหาความขัดแย้ง พร้อมย้ำว่า เป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังอยากกระตุ้นให้สังคมไทยในทุกระดับได้ตระหนักถึงปัญหา จนนำมาสู่การแก้ปัญหาของรัฐบาล คสช. และรัฐบาลในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมานั้นสังคมมีความแตกแยก ไม่เว้นกระทั่งสถาบันครอบครัว แต่ในวันนี้ถือว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน อย่าง เปิดทั้งใจ ในประเด็นที่จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้งอีก และเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย ที่มีธรรมภิบาล ปราศจากคนคดโกง เพื่อบริหารประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ และพร้อมนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปอย่างแท้จริง ส่วนกรณีการทำโพลสำรวจคะแนนความนิยม หรือปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจ มองว่าเป็นการนำตนถูกนำไปเป็นประเด็นต่างๆ เพื่อสร้างความขัดแย้งทางการเมือง โดยย้ำว่า ไม่ต้องการสืบทอดอำนาจแต่อย่างใดอย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเมือง ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม และการลดความเหลื่อมล้ำ มันจะเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงและ สัมพันธ์กันในหลายมิติ จึง ต้องแก้ปัญหาแบบองค์รวมพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง การซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ว่า มีตำแหน่งน้อย จึงต้องมีทั้งได้ไม่ได้ ซึ่งต้องไปดูว่าคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงมีเท่าไร และนำคนเหล่านั้นมาให้ข้อมูล ถึงแม้จะกลัวความผิดด้วย พร้อมต้องมีระบบการคุ้มครองพยาน และให้ความเป็นธรรม ซึ่งการปฏิรูปมันไม่ได้สำเร็จได้ง่ายๆ เพราะต้องแก้ให้ครบวงจร ใช้วิธีการทางกฎหมาย และโดยเฉพาะความร่วมมือ ทั้งจากเจ้าหน้าที่และประชาชน
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงเรื่องฝนตก น้ำท่วมขัง ว่า ต้องเร่งแก้ปัญหาระยะสั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องของการก่อสร้างการบูรณาการแหล่งน้ำ ทั้งระบบการส่งน้ำ ระบายน้ำ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องใช้เวลาและงบประมาณจำนวนมาก เพื่อจัดทำแผนงานให้รัดกุม
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาที่รอการแก้ไข ต้องปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือต้องลงทุนเพื่อวางรากฐานในอนาคต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จึงจะต้องมียุทธศาสตร์ชาติ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย หรือวิสัยทัศน์ คือ มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ให้ได้โดยเร็ว แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ตลอดจนทำให้กระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนี้ก็ได้ใช้เวลา 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อะพลิกฟื้นสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทย กลับคืนมาเป็นสากลให้มากยิ่งขึ้นและได้รับความเชื่อมั่นจากเวทีระหว่างประเทศในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่อง การค้างาช้าง (CITES), การประมงผิดกฎหมายฯ (IUU), การบินพลเรือน(ICAO), การค้ามนุษย์, แรงงานต่างด้าว แรงงานทาส ที่มีความก้าวหน้าไปตามลำดับ
นอกจากนี้ รัฐบาล และ คสช. ได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ และบูรณาการกัน ท่ามกลางความขัดแย้งและความไม่เห็นชอบ เพื่อเตรียมการปฏิรูปประเทศ รวมความไปถึงการสร้างความปรองดอง ไปพร้อมๆ กัน
