จากกรณีเมื่อ วันที่ 10 ม.ค.51 – 30 ก.ย.54 จำเลยที่ 1 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อโจทท์เพื่อไม่ให้โจทก์ มีคุณสมบัติเป็นอธิการบดี ม.ราชภัฏสุรินทร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สภามหาวิทยาลัยได้เสนอชื่อโจทก์ เป็นอธิการบดี แต่จำเลยทั้งสองกลับเพิกเฉยและอ้างเหตุที่โจทก์ถูกสอบสวน ไม่ทูลเกล้าฯ ให้แต่งตั้งเป็นอธิการบดีทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.พ.56 โจทก์ยื่นขอถอนฟ้อง นายอภิชาติ จำเลยที่ 2 ขณะที่ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.57 ให้ยกฟ้อง ดร.สุเมธ จำเลยที่ 1 ต่อมาโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย
โดย ดร.อัครเดช สุพรรณฝ่าย รองอธิการบดี ม.ราชภัฏสุรินทร์ ตัวแทนของ ดร.อัจฉรา โจทก์ กล่าวภายหลังรับทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ศาลมีคำพิพากษากลับให้ลงโทษจำคุก ดร.สุเมธ อดีต เลขาธิการ สกอ. เป็นเวลา 1 ปี และปรับเป็นเงิน 20,000 บาท ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ แต่โทษจำคุกดังกล่าวศาลให้รอลงอาญามีกำหนด 2 ปี
ดร.อัครเดช กล่าวอีกว่า นับเป็นเวลาถึง 8 ปีที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ได้ส่งเรื่องให้ สกอ.เสนอชื่อ ดร.อัจฉราเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่ สกอ. ก็อ้างเหตุต่างๆ ที่จะไม่นำชื่อเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯ จึงมีความผิดและถูกศาลพิพากษาลงโทษ