พลเรือตรี บรรพต เกิดภู่ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 กล่าวในรายการเดินหน้าประเทศไทย ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ว่า คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม จัดตั้้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. โดยมีพลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ และมีคณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการประมงและเรือประมง รวมประมาณ 40 หน่วยงาน เช่น กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร และกระทรวงแรงงาน โดย ศปมผ. กำหนดจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขตต่าง ๆ มีเขต 1 – 3 ซึ่งเขต 1 มีพื้นที่ความรับผิดชอบพื้นที่อ่าวไทย 11 จังหวัดชายทะเล เรือประมงแต่ละลำจะออกทำการประมง ต้องแจ้งที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติใน การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ให้ตรวจสอบ ซึ่งมีรายการต่าง ๆ ประมาณ 13 รายการ
รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวด้วยว่า ศปมผ. ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ทำประมง โดยจัดตั้งศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิสขึ้้นมาเพื่อช่วยดำเนินการเอกสารหลักฐานที่ผู้ทำประมงยังไม่มี หรือหมดอายุแล้วภายในวันเดียว ซึ่งการบริการนี้ตั้งอยู่ภายในศูนย์การรายงานเข้าออกของเรือประมง หรือ ศูนย์ไปโป้(PIPO) นอกจากนี้ ศปมผ. ยังจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจ 12 ลำ พร้อมทั้งอากาศยาน 1 ลำ ขึ้นมาตรวจเรือประมงที่ทำผิดกฎหมายในน่านน้ำ ซึ่งหากพบพิรุธสามารถสืบค้นข้อมูลเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ได้ทันที ผ่านข้อมูลระบบสารสนเทศ รวมถึงการตรวจสอบโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำในเขต 1 ครอบคลุมพื้นที่ 16 จังหวัด ที่ผ่านมาดำเนินการแล้ว 82 โรงงาน พบการกระทำผิด 42 โรงงาน