ลูกจ้างบ.บริติชไทยซินเทติคเท็กสไทล์ 111 ชีวิต ได้รับเงินชดเชยจากกองทุนลูกจ้าง คนละไม่ต่ำกว่า 1.8 หมื่นบาท ภายในสิ้นเดือน มิ.ย. 60 เว้นแรงงานต่างด้าว
“นายชาลี ลอยสูง” รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เปิดเผยกับ“เวบไซดฺ์คมชัดลึก” ว่าจากเหตุการณ์ของบริษัทบริติชไทยซินเทติคเท็กสไทล์ ได้ปิดกิจการลงหลังจากศาลพิพากษาให้บริษัทล้มละลาย ทำให้คนงานทั้งหมดจำนวน 111 คน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงทั้งที่เป็นแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ ต้องถูกลอยแพคนงาน โดยไม่มีการจ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างค้างจ่าย นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 ทำให้คนงานต้องประสบกับความเดือดร้อนอย่างมาก
**นายชาลี กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาคนงานบริษัทบริติชไทยซินเทติคเท็กสไทล์ ก็ได้พยายามหาวิธีการให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาแก้ไขปัญหา ทั้งที่เป็นนายจ้าง หน่วยงานภาครัฐ คือ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมบังคับคดี เพื่อให้หาแนวทางในการเยียวยาแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องคนงาน รวมทั้งการเขียนคำร้องเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และความพยายามก็เกิดขึ้นหลายครั้ง ในการประสานหน่วยงานต่างๆ แต่การแก้ไขปัญหาก็เป็นไปด้วยความล่าช้า
** “คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างรุนแรงที่นายจ้างกระทำต่อลูกจ้างโดยไม่รับผิดชอบใดๆ การบังคับใช้กฎหมายให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก และเรื่องดังกล่าวก็เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน ซึ่งทุกครั้งที่มีการติดตามเรื่องก็จะได้รับคำตอบว่า “นายจ้างล้มละลายจะให้ทำอย่างไรได้ ก็ได้พยายามแล้ว”นายชาลี กล่าว
**นายชาลี กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งอำนาจหน้าที่ ที่จะเยียวยาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ในการบรรเทาทุกข์ของคนงาน จากเงินสงเคราะห์ลูกจ้าง ก็อ้างเรื่องสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ตรวจสอบเรื่องการบริหารกองทุนที่มียอดเงินลดลง ทำให้มีปัญหาในการจ่าย
**อย่างไรก็ตามภายหลังจากการประชุมกรรมการบริหาร คสรท.เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ได้มีมติให้ คสรท.ร่วมกับสหภาพแรงงานบริษัทบริติชไทยซินเทติคเท็กสไทล์ เร่งดำเนินการผลักดันเพื่อให้คนงานได้รับสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้โดยเร็วต่อไป และในวันที่ 21 มิถุนายน 2560 คสรท.นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคสรท.,นายไพฑูรย์ บางหรง กรรมการบริหาร และประธานกลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก และผู้แทนจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.)ร่วมกับสหภาพแรงงานบริษัทบริติชไทยซินเทติคเท็กสไทล์ สนมาชิกประมาณ 40 คน ได้ไปติดตามเรื่องการเยียวยาจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ซึ่งมีการประชุมในวันดังกล่าวกระทั่งการประชุมสิ้นสุดลงผลการประชุมมีดังนี้
“1.อนุมัติการจ่ายเงินสงเคราะห์ลูกจ้างตามหลักเกณฑ์ให้แก่คนงานไทยซึ่งจะได้รับประมาณคนละไม่เกิน 18,000 บาท 2.สำหรับแรงงานข้ามชาติประมาณ 20 คน ต้องไปตรวจสอบเอกสารการทำงานว่าถูกต้องหรือไม่ หากมีเอกสารการทำงานและเดินทางมาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็มีสิทธิในการรับเงินสงเคราะห์ แต่หากไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีแค่ใบอนุญาตทำงานชั่วคราว(บัตรสีชมพู)ไม่สามารถจ่ายได้ ซึ่งจะนำมาพิจารณาอีกครั้งหลังตรวจสอบเอกสารแล้ว 3.ส่วนการจ่ายเงินจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน” รองประธาน คสรท. กล่าว