“นายดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ได้กล่าวถึงการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของ พล.อ. ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในเดือนตุลาคมนี้ว่า จะมีการหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความมั่นคง การทหาร รวมถึงสถานการณ์ในภูมิภาค โดยการเดินทางเยือนครั้งนี้ จะได้ประโยชน์ทั้งความสัมพันธ์ การค้าการลงทุน เพราะขณะนี้ไทยมีการค้าที่เกินดุลกับสหรัฐฯอยู่ จึงจะทำอย่างไรให้การค้าการลงทุนนี้อยู่ในตัวเลขที่สมเหตุสมผล โดยไทยอาจลงทุนกับสหรัฐฯมากขึ้น
ทั้งนี้ “นายดอน”กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้กดดันไทยให้ปิดบริษัทของเกาหลีเหนืออย่างที่เป็นกระแสข่าว อีกทั้งนายเร็กซ์ เวย์น ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่เป็นการหารือในภาพกว้างของท่าทีของสหรัฐฯต่อเกลาหลีเหนือ โดยก่อนหน้านี้ในการประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน เราได้ถามว่าเป้าหมายของสหรัฐฯต่อเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำในเกาหลีเหนือ หรือต้องการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หรือต้องการเห็นการรวมตัวของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หรือต้องการเห็นเหลาหลีเหนือเป็นแบบที่เคยเป็นก่อนที่สหรัฐฯจะเปลี่ยนประธานาธิบดี โดยสหรัฐฯตอบว่า ต้องการเห็นเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ จึงต้องการหาทางออกในเรื่องนี้ร่วมกัน
ถามถึงการเยือนสหรัฐฯครั้งนี้จะมีการพูดคุยถึงปัญหาเกาหลีอีกเหนือหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า เชื่อว่าสามารถพูดคุยกันได้อีก และเชื่อว่าท่าทีของสหรัฐฯ คงจะไม่เปลี่ยนไปจากนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดสงคราม เพราะทางออกที่ดีคือการพูดคุย ซึ่งอาเซียนต่างก็สนับสนุนการพูดคุย.