มหากาพย์ชีวิต”หญิงไก่”ยิ่งสาว-ยิ่งลึก ประวัติส่วนตัว “แต่ง-เลิก หลายครั้ง” มีเพิ่มคนหายคล้ายถูกอุ้มฆ่า ล่าสุดยังนอนคุก “ศาลฯ”ยกคำร้องขอประกันตัว

0
2080

ตามที่ น.ส.ประภาวรรณ หรือน้องก้อย ใจกล้า อายุ 19 ปี นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์กองปราบปราม เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังถูกนางมณตา หรือหญิงไก่ หยกรัตนกาญ อดีตนายจ้าง แจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยระบุอดีตนายจ้างชักชวนไปทำงานที่ฮ่องกง แต่ปฏิเสธเลยถูกแจ้งจับ นอกจากนี้ ยังมีลูกจ้างที่ถูกแจ้งความลักษณะเดียวกันอีกหลายราย ล่าสุดตำรวจกองปราบฯออกหมายเรียกมารับทราบข้อหา โดยจ่อเอาผิดตามม.112 และค้ามนุษย์ แต่ยังให้การปฏิเสธและศาลค้านประกันตัว นำตัวไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง บางเขน ที่มาของเหตุ ตามที่เป็นข่าว

 

ไก่1
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมทีมทนายความ พาผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออาญาคดีลักทรัพย์ของ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ ผู้ต้องหาคดี 112 และคดีแจ้งความเท็จให้ผู้อื่นต้องรับโทษทางอาญา ทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ น.ส.วณิชยา หรือน้องมีน บุ้นสุนเฮง อายุ 21 ปี นางสุกัญญา ศิริม่วง อายุ 54 ปี มารดาน้องมีน น.ส.ประภาวรรณ หรือน้องก้อย ใจกล้า อายุ 19 ปี นายชูเกียรติ ใจกล้า นางประภาพร ทองเฟื้อง พ่อและแม่ของน้องก้อย และน.ส.จันทนา หรือหนูนา คชคงไทย อายุ 25 ปี เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เพื่อให้ข้อมูลเบาะไก่2แสเกี่ยวกับการทำงานของข้าราชการตำรวจนครบาล กรณีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ท้องที่สน.ประชาชื่น โดยผู้เสียหายขอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบว่า มีตำรวจเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับ นางมณตาด้วยหรือไม่ และตั้งข้อสงสัยการตั้งวงเงินการประกันตัวสูงถึง 3 ล้านบาท เป็นเหตุให้เหยื่อไม่มีทางขอประกันตัวไปสู้คดีได้ จนต้องติดคุกอยู่ในเรือนจำระหว่างรอพนักงานสอบสวนทำสำนวนคดีส่งฟ้องต่ออัยการ

ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความห่วงใยกระบวนการโดยเฉพาะการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ถือว่าเป็นองค์กรเบื้องต้นในกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องที่สังคมจับตาดูอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของพนักงานสอบสวน เนื่องจากเราอยู่ระหว่างการปฏิรูปองค์กร ความไว้ใจถือว่าเป็นความสำคัญของความสำเร็จในการปฏิรูปการทำงานของพนักงานสอบสวน และการทำงานสอบสวนในภาพรวม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องขอขอบคุณทนายสงกานต์ และสภาทนายความช่วยทำคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นท้องที่ สน.ประชาชื่น ให้มีความโปร่งใส โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนตรวจข้อเท็จจริงยืนว่าการที่จะรื้อฟื้นคดี และตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีทั้งหมดนั้น จะต้องทำอย่างโปร่งใส ทั้งนี้ การดำเนินคดีแจ้งข้อหากับใคร พนักงานสอบสวนต้องตระหนักถึงข้อมูลพื้นฐานของผู้ต้องหาที่เป็นคนยากคนจน เด็กหรือผู้ด้อยโอกาส ควรระมัดระวังตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบชัดเจนก่อนดำเนินคดี หากทำให้ผู้บริสุทธิ์หรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับโทษทางอาญา มันเป็นความทุกข์ทรมาน คณะสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับจเรตำรวจการทำงาน ถ้าหากมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นก็นำมาปรับปรุงการทำงาน ไม่อยากให้เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ผู้เสียหายทั้งหมดจะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำงานของพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น

รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ได้เร่งรัดให้ รรท.ผบช.น. ดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากผู้ต้องหาในคดี ถ้าพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำอย่างตรงไปตรงมา ผิดจริยธรรม หรือมีการเบี่ยงเบน จะต้องถูกลงโทษทั้งวินัยและอาญา คาดว่าใช้เวลาตรวจสอบไม่เกินสัปดาห์คงเสร็จสิ้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่าพบข้อพิรุธของพนักงานสอบสวนหลายส่วนฃึ่งจะต้องขยายผลต่อไป

ส่วนกรณีมีบุคคลที่สูญหายเกี่ยวข้องกับคดีหญิงไก่ เพิ่งได้รับข้อมูลจากทนายสงกานต์ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบมีความเชื่อมโยงกันในระดับหนึ่ง ในชั้นนี้ยังไม่ถึงขั้นเป็นคดีฆาตกรรม แต่มีข้อมูลบางส่วนอาจโยงไปได้ แต่ต้องขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน โดยให้กองปราบฯ รับเรื่องไปดำเนินการ

ด้าน”ทนายสงกานต์ ได้ข้อมูลใหม่กับตำรวจโดยยังไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่การดำเนินการต่อไป รรท.ผบช.น. จะพิจารณาว่าหากเรื่องที่บก.ป.ดำเนินการอยู่แล้ว หรือเกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในกระบวนการ ยุติธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ใช่คนจนทำอีกแบบ หรือคนมีเงินทำอีกแบบหนึ่ง ทำให้เกิดความเป็นธรรม” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว ด้าน น.ส.ประภาวรรณ หรือน้องก้อย ยกมือไหว้ตำรวจ พร้อมกล่าวขอบคุณที่ให้ความยุติธรรมกับตนและครอบครัว

ส่วนรายละเอียดคดีเพิ่มเติมนั้นมีทั้งหมด 2 เรื่อง ที่ทางผู้เสียหายรอวันที่จะดำเนินคดีกับทางหญิงไก่ คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เป็นกรณีของนายโก้ ขอสงวนนามสกุล เป็นคนขับรถของหญิงไก่ อยู่กับหญิงไก่มาตลอดเวลา กระทั่งเมื่อปี 2555 นายโก้หายตัวไป โดยหญิงไก่ไว้วางใจมาก จะไปกับหญิงไก่โดยตลอด ไม่ว่าจะไปทำภารกิจอะไร นำชื่อมาเข้าทะเบียนบ้านเลขที่ 3/551 ถนนเทศบาลนิมิตเหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ด้วย

สาเหตุที่เด็กๆ ชาวเขากลัวนางไก่มาก เนื่องจากนางไก่มีแฟนเป็นนายตำรวจ และเคยอ้างว่านายโก้ถูกตำรวจฝ่ายสืบสวนหิ้วตัวไปจากบ้านพักเมื่อปี 2555 โดยหนูนา เด็กชาวเขาทราบจากเพื่อนว่าหญิงไก่เป็นคนบอกเอาตัวไป ต่อมาบุพการีของโก้เสียชีวิตบ้านอยู่ที่ จ.ลพบุรี ตามตัวนายโก้ไม่ได้ พยายามติดตามหาตัวมาโดยตลอด กระทั่งสงสัยจึงตรวจสอบเช็คผ่านทางทะเบียนราษฎร์ จึงทราบว่านางไก่ คัดชื่อของนายโก้ ออกจากทะเบียนบ้านเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 โดยนายโก้ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งนี้ในวันที่ 11 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. ผู้ใหญ่บ้านและพี่ชายนายโก้ จะมาร้องเรียนที่ บช.น. อีกครั้งหนึ่ง” ทนายผู้เสียหาย กล่าว

นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า คดีที่ 2 นางไก่ไปขอซื้อที่ดิน 8 ไร่ กับเศรษฐีคนหนึ่งในจ.อุดรธานี อ้างตัวเป็นลูกของอดีตสามีเก่า เจ้าของที่ดินรายนี้ ที่เลิกกันไป 40 ปี บอกว่าจะขอซื้อที่ดินจำนวน 8 ไร่ เมื่อปี 2546 เพื่อสร้างคอนโดมิเนียม จากนั้นนางไก่ได้เดินทางไปกับสามีที่เป็นนายตำรวจและได้รับตัวป้าเจ้าของที่ดินมา ต่อมาป้าเจ้าของที่ดินหายไปกับนางไก่ไม่สามารถติดต่อได้ จนถึงปัจจุบัน ญาติมาสอบถามกับนางไก่ได้คำตอบว่า ป้าเจ้าของที่ดินเสียชีวิตไปแล้วฃึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวโอนเป็นชื่อนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล (ชื่อสกุลเดิมนางไก่) ทั้งนี้ ทางญาติที่เป็นครูอยู่ที่ จ.อุดรธานี แต่ขอสงวนชื่อนามสกุล เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากว่ายังมีพรรคพวกของนางไก่ยังคงลอยนวลอยู่ ทั้งนี้ พฤติการณ์ของนางไก่ เวลาเดินทางไปไหนจะมีรถตำรวจนำ รวมถึงเด็กๆ ชาวเขาเวลาเข้าหาต้องหมอบ กราบ และต้องพูดคำราชาศัพท์เสมอ ทั้งนี้ นางไก่เคยใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่าคุณหญิงสุชาดาด้วย

พล.ต.ต.จารุวัฒน์ กล่าวว่า แนวทางในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนได้ประชุมหาแนวทางกับพนักงานสอบสวน โดยให้ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติ ต้องเป็นไปตามป.วิอาญา และหลักเกณฑ์ของตร. รวมถึงสั่งการให้ชุดพนักงานสอบสวนทุกนายพิจารณาข้อเท็จจริงแห่งสำนวนคดี และพิจารณาการใช้ดุลยพินิจอยู่บนพื้นฐานโดยชอบหรือไม่ เมื่อได้ขั้นตอนทั้งหมดแล้ว หากพบการกระทำความผิดทางอาญา จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำหน้าที่ตำรวจที่ดีให้กับประชาชน อยากให้ทุกคนให้ปากคำโดยละเอียด มั่นใจว่าคดีที่เกิดขึ้นนี้มีเหตุไม่ชอบมาพากล อาจมีคนอื่นถูกกระทำจากผู้หญิงคนนี้อีก ขอให้ความเชื่อมั่นความปลอดภัย ความยุติธรรม กับทุกคน รับปากว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ส่งทีมสืบสวนไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน แล้ว น่าจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นเพื่อการดำเนินการตามแนวทางแห่งคดีต่อไป

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.