วันนี้ (6 พ.ค. 59) เวลา 14.00 น. นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ลงพื้นที่ ณ สถานคุ้มครองบ้านนารีสวัสดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมอบนโยบายด้านการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
นายไมตรี กล่าวว่า เนื่องด้วย ใกล้จะถึงเดือนมิถุนายน 2559 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาจะจัดลำดับของประเทศไทยในรายงานการค้ามนุษย์ หรือ TIP Report แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยได้ทุ่มเทการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยผนึกกำลังส่วนราชการทุกระดับและทำงานร่วมกัน อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดผลงานสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของรัฐบาล ภายใต้นโยบาย “Zero Tolerance” หรือการไม่อดทนต่อการค้ามนุษย์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่การเร่งปิดจุดอ่อนทางกฎหมาย โดยออกกฎหมายว่าด้วย การพิจารณาคดีค้ามนุษย์เพิ่มบทลงโทษการกระทำผิดค้ามนุษย์ให้สูงขึ้น การจัดตั้งหน่วยงานเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะ ในทุกกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ชั้นของตำรวจ อัยการ และไปจนถึงศาล ถือได้ว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่มีการจัดตั้งกลไกในลักษณะนี้
ทั้งนี้ สถิติการดำเนินคดีเพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 280 คดี เป็น 317 คดี นอกจากนี้ ในประเด็นที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษยังมีเรื่องการป้องกัน (Prevention) กลุ่มเสี่ยงไม่ให้ตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว และแรงงานในภาคอุตสาหกรรมประมง ซึ่งเชื่อมโยงกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU และเรื่องการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (Protection)
นายไมตรี กล่าวต่อไปว่า การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ นับว่าเป็นหัวใจสำคัญที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยึดถือ โดยมีการคุ้มครองผู้เสียหายทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ โดยไม่เลือกปฏิบัติ คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทั้งนี้ ได้จัดตั้งสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 8 แห่งกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ แบ่งเป็น สถานคุ้มครองชาย 4 แห่ง และหญิง 4 แห่ง โดยในปี 2558 ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายทั้งคนไทยและคนต่างด้าว 471 คน ได้พักพิงในสถานคุ้มครองฯ
นายไมตรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้ว่ารัฐบาลไทยได้ส่งผลงานให้สหรัฐอเมริกาไปแล้วในรอบแรกเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2559 จำนวน 155 หน้า และรอบสอง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 เพิ่มเติมอีก 73 หน้า แต่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานติดตามการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทุกคนอย่างใกล้ชิด โดยในวันนี้ ตนได้ลงพื้นที่เพื่อมอบนโยบายด้านการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เป็นผู้หญิงและเด็ก โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ สถานคุ้มครองบ้านนารีสวัสดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ บ้านนารีสวัสดิ์มีภารกิจหลักเช่นเดียวกับสถานคุ้มครองอีก 7 แห่ง คือ การให้บริการปัจจัยสี่ ทั้งเรื่องอาหาร ที่พักพิง การรักษาพยาบาล การบำบัดฟื้นฟูทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ การฝึกอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม/ประเทศต้นทาง แต่จุดเด่น คือ การดูแลผู้เสียที่เป็นผู้หญิงและเด็ก จึงเปิดร้านฝึกประสบการณ์ ได้แก่ “ร้านนารีบิวตี้” “ร้านนารีนวดแผนไทย” และ “ร้านนารีผลิตภัณฑ์” เพื่อบรรยากาศเป็นกันเอง สร้างความอบอุ่นให้แก่ผู้พักอาศัย
“สำหรับความมุ่งมั่นของไทยในการต่อต้านการค้ามนุษย์ นั้น หน่วยงานทุกหน่วย รวมทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยังคงขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล และตนขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจกันอย่างเต็มที่ในการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากล” นายไมตรี กล่าวในตอนท้าย
