นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เดือนเมษายน 2559 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 จากระดับ 62.4 เดือนที่ผ่านมา สู่ระดับ 61.5 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตน้อยลง เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 68.0 ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 68.8 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 88.5 จากเดือนก่อนที่ระดับ 89.5 แสดงให้เห็นว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนเมษายน 2559 ปรับตัวลดลงทุกรายการ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 เป็นต้นมา โดยอยู่ที่ระดับ 72.7 ซึ่งผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่สูงมากนัก เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ชัดเจน ปัญหาภัยแล้ง ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และการส่งออกหดตัว แม้ว่าการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี อีกทั้งความกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ารายได้ในปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวย้ำถึงความกังวลเรื่องดัชนีความเหมาะสม ในการซื้อรถยนต์คันใหม่ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 6-7 ปี ว่า ชี้ให้เห็นถึงความไม่มั่นใจและระมัดระวังในการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด
