นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 5 จังหวัด ได้แก่จังหวัดชัยภูมิ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก นครราชสีมา และจังหวัดอุดรธานี รวม 9 อำเภอ 17 ตำบล บ้านเรือนเสียหาย 333 หลัง พร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยทหารในพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น และจากการติดตามประกาศเตือนพายุฤดูร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าช่วงวันที่ 28 – 30 เมษายน นี้ บริเวณด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงประสาน 37 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง และลูกเห็บ อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกลงมาในระยะนี้จะช่วยเติมน้ำในเขื่อนทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความชื้นในอากาศ ส่งผลให้การปฏิบัติการฝนหลวงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำทำให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอจนถึงเดือนกรกฎาคม นี้ ขอให้ประชาชนกักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ทางสายด่วยนิรภัย 1784