เชือดนายทุนฮุบที่ดิน’สปก.’
ลุ้น”บิ๊กตู่”ใช้ม.44ยึดคืนที่ดิน สปก.จากนายทุน รายใหญ่ มีเนื้อที่ตั้งแต่ 100-500ไร่ขึ้นไปชึ้นบัญชี25จังหวัด ประมาณ5แสนไร่จังหวัดเมืองกาญจน์ ติดอันอับเป้าหมาย กว่า 15 แปล
นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) กาญจนบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ กำลังรอประเด็นสำคัญว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะลงนามในคำสั่งใช้มาตรา 44 เรียกคืนที่ดิน ส.ป.ก.ที่มีการบุกรุกหรือไม่
เรื่องนี้ทราบว่านายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการ ส.ป.ก. และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทำได้เรื่องเสนอขึ้นไปแล้ว หากมีการประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 44 เรียกคืนที่ดิน ส.ป.ก.เมื่อใด จะทำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรียกคืนที่ดิน ส.ป.ก.ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น และทางสปก.กาญจนบุรี พร้อมเดินหน้าทันที
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีพบว่ามีนายทุนครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.กาญจนบุรี ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป จำนวน 13 ราย รวมเนื้อที่ประมาณ 12,732 ไร่ ซึ่ง 1 ในนั้นคือการครอบครองที่ดินของวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จำนวน 931 ไร่เศษ ซึ่งวันศุกร์ที่ 8 ก.ค.เวลาประมาณ 09.00 น.จะนำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยก่อนหน้านี้หลังจากที่ ส.ป.ก.เปิดศูนย์ร้องเรียนการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.โดยให้แจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-3456-4320 เบอร์มือถือ 09-3326-4991 (ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี) หรือโทร.สายด่วน1764 หรือส่งหนังสือร้องเรียนมาที่ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี 100/22 ถ.แม่น้ำแม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 71000 ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
อีกเหตุที่สำคัญมีการร้องเรียนเข้ามาว่ามีนายทุนครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 1,000 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับที่ดินของวัดป่าหลวงตาบัว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ ส.ป.ก.กำลังเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับการร้องเรียนแล้ว ซึ่งหากพบว่าเป็นความจริง เบื้องต้น ส.ป.ก.ก็จะส่งหนังสือไปถึงผู้ครอบครองเพื่อให้มาชี้แจงการได้มาของที่ดินเพื่อให้ความเป็นธรรม แต่ถ้าหากไม่ยอมมาพบเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการทางด้านกฎหมายทันที
ขณะเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจปฎิบัติการพิเศษ พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า สนธิกำลังกรมอุทยาน ตำรวจ กอ.รมน เข้าตรวจสอบพื้นที่รุกล้ำเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ที่แรกทำการตรวจสอบรางวัด ระเบียงไพรรีสอร์ท หมู่ 12 ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดยมีนายยงวิทย์ คุณธรรมดี เจ้าของรีสอร์ท ได้นำเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินที่ได้ครอบครองเนื้อที่รีสอร์ทแก่เจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าได้ขอซื้อพื้นที่ตรงนี้มาจากชาวบ้านในปี 2547 จำนวน จำนวน20ไร่
ได้มีถูกร้องเรียนจากชาวบ้านมาตลอด จนกระทั้งเมื่อ3-4ปีก่อน ได้นำเอกสารโฉนดที่ถือครองที่ดินให้กับทางศาลปกครองพิจารณา โดยศาลตัดสินว่าคำร้องของชาวบ้านที่กล่าวหารีสอร์ทนั้นรุกล้ำที่นั้นไม่มีมูลความผิด พร้อมให้ผู้ครอบครองแสดงเอกสารพิสูจน์สิทธิ์ ก่อนจะนำไปทำการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
การปฎิบัติการตรวจสอบในครั้งนี้ มี นายชัยวัตร ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ หน่วยเฉพาะกิจปฎิบัติการพิเศษ พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า นายธโรจน์ โพธิสาโร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่1 นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ร่วมพูดคุยและทำความเข้าใจกับนายยงวิทย์ คุณธรรมดี เจ้าของรีสอร์ท ระเบียงไพร ถึงขั้นตอนการทำงานและการตรวจสอบเอการสิทธิ์ในโฉนดที่มีกับหลักฐานภาพถ่ายทางดาวเทียม
โดยนายชัยวัตร ระบุว่าจะนำเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบว่าเอกสาร นส. 3 โฉนดที่ดินได้มาถูกต้องตามที่ทำมาหรือไม่ สำหรับพื้นที่ส่วนที่เกิน ซึ่งเจ้าของได้อ้างถือสิทธิ สค. นั้นก็จะนำ สค. นั้นไปตรวจสอบต่อไป ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากได้มาไม่ชอบโดยกฎหมายก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด
และเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันนี้ได้เข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่สุสานสว่างอริยะธรรมสถาน ซึ่งได้มีพื้นที่ส่วนหนึ่งรุกล้ำเข้าไปแนวเขตอุทยาน จึงทำการรังวัดเพื่อรตรวจสอบพื้นที่ที่แน่นอน รวมทั้งบริเวณน้ำตกลานรัก ที่มีลานรักรีสอร์ท ยมีนายสมบูรณ์ ยอดขวัญเป็นเจ้าของ
โดยขณะที่ทำการเข้าตรวจสอบพบเพียงนางถนัด ยอดขวัญ ภรรยา อยู่ดูแล โดยระบุว่า พื้นที่ที่ทำรีสอร์ทนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ได้ถือครองมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ จนได้เอกสาร สค. 1 ในปี 2498 ขณะที่พื้นที่ด้านข้างนั้นเป็นอีกรายหนึ่งที่ปลูกมันสัมปหลัง ได้มาทำไร่มันสัมปะหลัง ซึ่งพื้นที่ทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ครอบครองนำเอกสารสิทธิ์ มายืนยันกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
