“นายก”ใช้ ม.44สั่งย้าย ข้าราชการรวดเดียว 23 ตำแหน่ง มีข้อร้องเรียนทุจริต สั่งศอตช.แจงผลสอบภายใน 30 วัน
ฟ้าผ่าในวงการราชการ วันที่ 24 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคำสั่งของคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 33/2559 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสําคัญเร่งด่วนของประเทศ และเพื่อประโยชน์ ในการตรวจสอบการปฏิบัติราชการอันเป็นแนวทางหนึ่งในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน หัวหน้าคสช.จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 เห็นชอบให้ข้าราชการซึ่งถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการกระทําความผิด เกิดขึ้นในพื้นที่ของตนหรือมีการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือดําเนินการหรือไม่ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการและมีมูลอันสมควรตรวจสอบ ระงับการปฏิบัติราชการโดยไม่ขาดจากตําแหน่งเดิมและให้ไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นในสังกัดเดิมเป็นการชั่วคราว ดังนี้ 1.นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการ ในสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.นายวาทิต สุวรรณยิ่ง อัยการจังหวัดนาทวี ไปปฏิบัติราชการในสํานักงาน อัยการสูงสุด 3. นายมาโนช รัมมะสินธุ์ รองอัยการจังหวัดนาทวี ไปปฏิบัติราชการ ในสํานักงานอัยการสูงสุด 4. นายนันทวุธ อุตสาหตัน รองอัยการจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการ ในสํานักงานอัยการสูงสุด 5.นายทรงวุฒิ โชติมา อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการ ในสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงอุตสาหกรรม 6.น.ส.รัตนา พละชัย แรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการ ในสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน 7.พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ8.พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ (สตช.) 9.พล.ต.ต. กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 10.พล.ต.ต. วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 11 พ.ต.อ. อรรถวิทย์ สายสืบ รองผบก.น.1 ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 12.พ.ต.อ. ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.สะเดา ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 13.พ.ต.อ. กิตติพงศ์ วิเศษสงวน ผกก.ห้วยขวาง ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 14.พ.ต.อ. สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สส.บก.น.1ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 15.พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ ผกก.1บก.ปคม ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 16.พ.ต.อ. อัมรินทร์ อัมพรมหา ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 17.พ.ต.อ. กิตติภณ แก้วอัมพร ผกก.3บก.ส.2 ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 18.พ.ต.อ. ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.2บก.สส.สตม ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 19. พ.ต.อ. อโนทัย แสงเฟือง ผกก.2บก.ตม.1 ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 20.พ.ต.ท. ศาสตร์ศักดิ์ ชัยประเสริฐ รองผกก.ป.สน.ห้วยขวาง ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 21.พ.ต.ท. ศุภภัทร สวัสดี สวป.ห้วยขวาง ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 22.พ.ต.ต. ทิพากร แก้วเปล่ง สว.สส.บก.น.1 ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช. 23.พ.ต.ต. นันทพล ทองน่วม สว.งานสายตรวจ1กก.สายตรวจบก.สปพ. ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการ สตช
ให้ศูนย์อํานวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แจ้งข้อเท็จจริงในการตรวจสอบ การปฏิบัติราชการของผู้นั้นให้หน่วยงานทราบ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยต้องปรากฏผลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และกรณีที่ไม่อาจดําเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในกําหนดเวลา ให้รายงานอัยการสูงสุดหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของเจ้าหน้าที่ผู้นั้น และหากผลการตรวจสอบพบว่าผู้ถูกตรวจสอบมีความผิด ให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการทางวินัยและกฎหมายต่อไป ในกรณีที่ไม่พบว่ามี การกระทําความผิดหรือไม่ถึงขั้นต้องดําเนินการทางวินัย ให้เยียวยาแก่ผู้ถูกตรวจสอบโดยให้ไปดํารงตําแหน่ง ในระดับเดิมตามความเหมาะสม แต่ให้อยู่นอกพื้นที่เดิมก่อนเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายในคราวต่อไป
ดําเนินการแล้ว ให้แจ้งศอตช.เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูล ให้ผู้บังคับบัญชาในทุกหน่วยงานของรัฐ สอดส่องพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากเห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไข ให้ตักเตือน แนะนํา ย้ายออกนอกพื้นที่ สับเปลี่ยนตําแหน่งหน้าที่การงาน หรือหากมีมูลความผิด ให้ดําเนินการทางวินัย โดยคํานึงถึงการให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ผู้นั้น ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาละเว้นหรือบกพร่องในการปฏิบัติ ให้ผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.
แหล่งข่าวแจ้งว่า ข้าราชตำรวจที่ถูกโยกย้ายครั้งนี้คาดว่าเป็นประเด็นบ่อนการพนัน ประเด็นการค้ามนุษย์ และการเข้าจับกุมอาบอบนวด นาตารี ด้านพื้นที่จ.สมุทรสาคร ที่ย้ายข้าราชการยกจังหวัด ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดลงมานั้นเป็นประเด็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ในข่ายการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะถึงขั้นทุจริตหรือไม่เพียงใด ยังไม่ถึงขั้นตอนนี้