วันที่ 30 มิ.ย.เวลาช่วงบ่าย พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุกฤษฎ์ บุญทรง พ.ต.อ.ภิภพ ดวงนภา พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กนกนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.วีรภัสร์ ห้วยหงส์ทอง ผกก.สส. กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.สนองเดช เดชวัชรนนท์ ผกก.สภ.เก้าเลี้ยว แถลงผลการติดตามจับกุมตัวคนร้ายชิงทรัพย์ด้วยการใช้ไม้ตีเหยื่อแล้วข่มขืน โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เก้าเลี้ยว พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ ร่วมกันออกตามหาตัวคนร้ายที่ใช้ไม้ตีหญิงสาวที่ขับขี่รถ จยย. ก่อนจะลากลงไปในทุ่งนาแล้วข่มขืน พร้อมเอาทรัพย์สินไปด้วย
โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดนครสวรรค์ ตามคดีอาญาที่ 161/2559 คดีอุกฉกรรจ์ที่ 2/2559 ของ สภ.เก้าเลี้ยว คดีอุกฉกรรจ์ที่ 11/2559 ของ ภ.จว.นครสวรรค์ (ข่มขืน,ชิงทรัพย์) โดยจับคนร้ายเป็นชายได้ 1 ราย ชื่อ นายสุรัตน์ หรือ ต่าย แสนทวีสุข อายุ 37 ปี อยู่หมู่ 2 ต.เก้าเลี้ยว อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางเงินสด 600 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ยี่ห้อ LAVA สีดำ รุ่น iris 700 กับรุ่น iris 360จากการสอบสวนผู้เสียหายที่มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ คือ นางสาวเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถ จยย. โดยมีนางสาวบี (นามสมมติ) ซ้อนท้ายรถมา เหตุเกิดวันที่ 5 มิ.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. บนถนนสายเก้าเลี้ยว-ชุมแสง หมู่ 7 ต.หนองเต่า อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ขณะที่ทั้งสองคนขับขี่รถ จยย. มาตามทาง ก็มีคนร้ายมีผ้าขาวโพกหน้าใช้ท่อนไม้ตีผู้เสียหายจนรถ จยย. ไถลลงไปข้างทาง รถจยย.ล้มลง คนร้ายได้เข้ามาเอาทรัพย์สินไป นางสาวบีทำแกล้งสลบไม่รู้สึกตัว ส่วนนางสาวเอ วิ่งหลบหนีคนร้าย แต่ถูกคนร้ายวิ่งไล่ตามทัน แล้วคนร้ายก็ลากตัวนางสาวเอลงไปในทุ่งนาข้างถนนแล้วลงมือข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอ จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง หลังเกิดเหตุคนร้ายได้เดินหลบหนีไป การสอบสวนทราบรูปพรรณคนร้ายว่า เป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี ร่างกายสูงใหญ่ กำยำ ไหล่กว้าง ลักษณะน่องมีกล้ามเนื้อ ใส่เสื้อแขนยาว โทนสีน้ำเงิน คล้ายเสื้อที่ชาวนาใส่ สวมกางเกงขาสั้น หลังจากที่ทราบรูปพรรณแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลแล้วออกติดตามหาตัวคนร้ายตามลักษณะที่ผู้เสียหายให้การ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ละแวกใกล้เคียง เพราะเดินหลบหนีไป โดยไม่มีรถมารับ ไม่ได้ขับขี่ รถ จยย.หลบหนี
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบหลักฐาน เป็นท่อนไม้ 1 ท่อน มีคราบเลือดติดอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นท่อนไม้ที่คนร้ายใช้ตีผู้เสียหาย สายกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย พระเครื่องที่ผู้เสียหายใช้ห้อยคอ เส้นผมและเส้นขนจำนวน 3 เส้น จากการตรวจสอบร่างกายของผู้เสียหาย ทั้งเสื้อผ้า ชุดชั้นใน รวมไปถึงการตรวจภายในของผู้เสียหาย เพื่อตรวจสารคัดหลั่งหาดีเอ็นเอของคนร้าย จนกระทั่งวันที่ 29 มิ.ย. ผลการตรวจหาดีเอ็นเอออกมา พร้อมทั้งตรวจเส้นผม เส้นขนของคนร้ายที่เก็บมาได้ปรากฏว่าตรงกัน เป็นของบุคคลคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัวนายสุรัตน์ ผู้ต้องสงสัยมาตรวจดีเอ็นเอ ปรากฏว่าตรงตามที่ได้ตรวจทั้งเส้นผม เส้นขนและสารคัดหลั่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและนำไปตรวจยึดของกลางที่บ้านของคนร้ายได้ กระเป๋าสะพายข้างแบบหญิงสีชมพู 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ LAVA สีดำ รุ่น iris 700 อีก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ LAVA สีดำ รุ่น iris 360 อีก 1 เครื่อง แล้วทำบันทึกจับกุมส่งมอบตัวคนร้ายพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.เก้าเลี้ยว ดำเนินคดีต่อไปในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ชิงทรัพย์ ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย