นางบุปผา ภู่ละออ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สศท.6)สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า คณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก ปี 2559 จำนวน 4 ชนิดคือ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อใช้เป็นข้อมูลวางแผนบริหารจัดการผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดในปี 2559 โดยพบว่า
เนื้อที่ให้ผล ปี 2559 ไม้ผลทั้ง 4 ชนิดมีจำนวน 664,874 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน1,909 ไร่ หรือร้อยละ 0.29 โดยทุเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มังคุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ส่วนเนื้อที่ให้ผลที่ลดลง คือ เงาะ และลองกอง ลดลงร้อยละ 3 เท่ากัน ด้านผลผลิตต่อไร่ทั้ง ทุเรียน มังคุด และเงาะ ลดลงเนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน มีฝนตก สลับอากาศหนาว อากาศร้อน อากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในแต่ละวันผลผลิตทั้ง 4 ชนิด ปี 2559 มีจำนวน 658,015 ตัน ลดลงจากปี 2558 จำนวน 62,237 ตัน หรือร้อยละ 9 ผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ ผลผลิตเงาะ ลดลงมากร้อยละ 19 รองลงมา คือ ทุเรียน และมังคุด ลดลงร้อยละ 6 และ 4 ตามลำดับ ยกเว้นลองกองในปีนี้ ที่คาดว่าปริมาณผลผลิตรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำ ซึ่งเป็นผลดีต่อการออกดอกของลองกอง ทำให้ติดดอก ออกผลผลิตมากขึ้น
สถานการณ์การผลิตไม้ผล ในขณะนี้พบว่า เงาะอยู่ในระยะขึ้นลูกเป็นผลอ่อน ผลผลิตต่อไร่ลดลงค่อนข้างมาก เพราะช่วงเงาะออกดอกมีฝนตกและมีน้ำค้างลงจัด ดอกเงาะร่วง ฝ่อ ดำดอกที่เหลือพัฒนาช่อดอกไม่สมบูรณ์มีขนาดช่อสั้น ส่วนทุเรียนปรับสภาพต้นไม่ทันจากสภาพอากาศที่ร้อนมากในกลางวัน กลางคืนหนาว สลับกับมีฝนและมีพายุลมแรง ใบจึงร่วงไม่ออกดอก โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะออกมากในเดือนพฤษภาคม
มังคุด ผลผลิตลดลงจากอากาศที่ร้อนสลับหนาวและมีฝน ทำให้มังคุดจากระยะแทงช่อดอกไม่ออกดอกกลับออกใบอ่อนแทน มังคุดส่วนใหญ่อยู่ในระยะเป็นลูกขนาดเล็ก รุ่นออกดอกก่อนเริ่มเก็บเกี่ยวได้บ้างแล้วประมาณร้อยละ 0.27 ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมิถุนายน ส่วนลองกอง ติดผลแล้วร้อยละ 70 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะดอกบานและติดผลอ่อน โดยผลผลิตจะกระจายเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม 2559 ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ไม้ผลในปีนี้มีปริมาณไม่มาก ดังนั้น เกษตรกรควรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตที่แก่ตามอายุการเก็บเกี่ยวได้ เพื่อคุณภาพผลผลิตของไม้ผลภาคตะวันออกของเราและเพื่อตัวพี่น้องเกษตรกรเอง